ล็อกดาวน์ดันยอดผู้ชมโอลิมปิก 2020 ไทยทีวี-ออนไลน์ทะลุ 20 ล้านคน

กีฬาโอลิมปิก

อานิสงส์ล็อกดาวน์-น้องเทนนิสเทควันโดคว้าทองแรก จุดกระแสเชียร์ไทย ดันผู้ชมพุ่งทั้งทีวี-ออนไลน์ คาด 6 วันหลังเปิดโอลิมปิกทางการยอดคนดูทะลุ 20 ล้านคน

วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 แม้ก่อนหน้าการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียว จะมีการคาดการณ์ว่า ความสนใจและบรรยากาศการรับชมของผู้ชมในทั่วโลกจะไม่คึกคักเหมือนปีก่อน ๆ ที่ผ่านมา

ด้วยสถานการณ์โควิดที่เผชิญความยากลำบากทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยที่มีกระแสความนิยมเบาบางก่อนเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ สะท้อนจากการทำแคมเปญการตลาดเกี่ยวกับโอลิมปิกที่ลดลง ตลอดจนหลายแบรนด์ชะลอการลงสปอนเซอร์ชิป

นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ เอ็มไอ มีเดียเอเยนซี่รายใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากการเปิดพิธีโอลิมปิกในวันที่ 23 ก.ค. ด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เฉพาะตัวของประเทศญี่ปุ่น ได้สร้างความประทับใจและจดจำ ตลอดจนการพูดถึงในโลก Social เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดง Pictogram เพื่อสื่อถึงสัญลักษณ์ของกีฬาในโอลิมปิก 2020 ซึ่งถือว่าเป็นตัวขโมยซีนหลักของพิธีเปิดครั้งนี้ไปก็ว่าได้

อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศไทยที่มีพื้นฐานชื่นชอบในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม หลังพิธีเปิด Olympics 2020 สิ้นสุดลง กระแสความชื่นชอบและการพูดถึงรายละเอียดต่าง ๆ ของพิธีเปิดก็พุ่งสูงติดเทรนด์ทวิตเตอร์

ประกอบกับปัจจัยการยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐในจังหวัดหลัก ๆ ยิ่งดันจำนวนผู้ชมการแข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ ใน Tokyo Olympics 2020 พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โดยเฉพาะปัจจัยเอื้อสำคัญ คือ การคว้าเหรียญทองแรกให้แก่ประเทศไทยของ เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในกีฬาเทควันโด ได้ปลุกกระแสการร่วมเชียร์นักกีฬาไทยที่เป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่ง Tokyo Olympics ในครั้งนี้รวม 42 คนจาก 14 ชนิดกีฬาได้เป็นอย่างดี

จากสภาวะวิกฤตโรคระบาดและมาตรการ Lockdown ส่งผลให้คนอยู่บ้าน และชมการถ่ายทอดสด Tokyo Olympics ได้ง่ายมากขึ้น ผ่านหลากหลายช่องทาง ทั้งฟรีทีวี 7 ช่อง คือ PPTV, True4U, JKN18, GMM25, NBT, Thai PBS, T Sports รวมถึงการถ่ายทอดสดผ่าน AIS PLAY และ Social Platforms ของสื่อดังกล่าว เพื่อให้คนไทยสามารถรับชมได้ทุกชนิดกีฬา โดยไม่พลาดการแข่งขันที่จัดขึ้นพร้อม ๆ กัน ซึ่งดูเหมือนว่าคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับ Tokyo Olympics 2020

จำนวนผู้ชม Tokyo Olympics 2020 มีมากกว่า 13.5 ล้านคนในช่วง 6 วันแรก หลังพิธีเปิดเริ่มขึ้น (ข้อมูลจำนวนผู้ชมรวมผ่านฟรีทีวี วัดผลโดย Nielsen Media Research) ยังไม่รวมผู้รับชมผ่าน Social Platforms ต่าง ๆ และ AIS Play ซึ่งรวมแล้วน่าจะมีผู้ชมรวมไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบจำนวนผู้ชม Tokyo Olympics กับ Rio Olympics 2016 ไม่สามารถวัดจำนวนผู้ชม (Rating) ได้โดยตรง เนื่องจากภูมิทัศน์สื่อ (Changing Media Landscape) ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

โดย Tokyo Olympics 2020 ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นมหกรรมโอลิมปิกแรกที่จัดขึ้นในยุคที่ Social Media มีบทบาทหลักอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก และยังช่วยขับเคลื่อนความคิด ความเชื่อและพฤติกรรมของคนทั่วโลก ส่งผลให้โอลิมปิก 2020 ทำเรตติ้งสูงสุดที่ 2.78 ขณะที่โอลิมปิก 2016 สามารถทำเรตติ้งได้สูงสุดกว่า 4.0

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชมหลักของ Tokyo Olympics คือ กลุ่มคนกรุงเทพฯ และคนเมือง รายได้ปานกลางถึงสูง อายุ 35 ปีขึ้นไป

โดยในช่วงต้นของมหกรรม ผู้ชมชาวไทยให้ความสนใจกับกีฬาแบดมินตัน เทควันโด จักรยาน ปิงปอง และยิงปืนมากที่สุด พูดง่าย ๆ ก็คือผู้ชมชาวไทยให้ความสนใจในกีฬาที่มีนักกีฬาของไทยเข้าร่วมการแข่งขันเป็นพิเศษ นอกเหนือจากประเภทกีฬาที่มีนักกีฬาของไทยเข้าร่วมการแข่งขัน จากข้อมูลในโอลิมปิกในครั้งที่ผ่าน ๆ มา คนไทยให้ความสนใจและติดตามรับชมประเภทกีฬาเช่น ว่ายน้ำ, ยิมนาสติก, เทนนิส, บาสเกตบอล, วอลเลย์บอล เป็นต้น

สำหรับแมตช์การแข่งขันที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก มีดังนี้

แบดมินตัน : ไทยพบเยอรมนี ช่อง PPTV เรตติ้ง 2.781

แบดมินตัน : ไทยพบฮังการี ช่อง PPTV เรตติ้ง 2.658

เทควันโด : ไทยพบสเปน ช่อง NEWTV เรตติ้ง 2.502

แบดมินตัน : ไทยพบเกาหลีใต้ ช่อง PPTV เรตติ้ง 2.295

แบดมินตัน : มาเลเซียพบยูเครน ช่อง PPTV เรตติ้ง 2.128