รพ.บุษราคัม เปิดไอซียูสนาม 17 เตียง รับผู้ป่วยโควิดอาการหนักวันแรก

รพ.บุษราคัม ขยายขีดความสามารถ เปิดไอซียูสนามขนาด 17 เตียง รับผู้ป่วยโควิดอาการหนัก ลดการส่งต่อ-รอคิวเตียงไอซียูของโรงพยาบาลอื่น ๆ พร้อมเปิดให้บริการวันนี้วันแรก

วันที่ 4 สิงหาคม 2564 นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุษราคัม เปิดเผยว่า แต่เดิม รพ.บุษราคัม เปิดขึ้นมาเพื่อรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง โดยปัจจุบันเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 82 วัน รับผู้ป่วยรวม 14,213 ราย กลับบ้านแล้ว 11,000 ราย

ส่วนวันนี้ (4 ส.ค.) ผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 287 ราย และรับใหม่ 387 ราย มีผู้ป่วยรักษาอยู่ 3,333 ราย ในจำนวนนี้ใช้ออกซิเจนไฮโฟลว์ 169 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจ 2 ราย

ทั้งนี้ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยใช้ออกซิเจนลดลงจาก 750 ราย เหลือ 450 ราย ผู้ป่วยใช้ออกซิเจนไฮโฟลว์ยังสูง 160-180 รายต่อวัน

ส่วนผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจวันละ 8-10 ราย จากการที่มีผู้ป่วยวิกฤตใส่เครื่องช่วยหายใจมาตลอด และรอส่งต่อไปโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงเป็นเวลานาน

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์

รพ.บุษราคัม จึงได้ตั้งไอซียูสนามแยกดูแลผู้ป่วยอาการหนัก ขนาด 17 เตียง แบ่งเป็นหอผู้ป่วยรวม (Cohort Ward) 13 เตียง และห้องแยกความดันลบ 4 ห้อง พร้อมอุปกรณ์การแพทย์มาตรฐานเดียวกับไอซียูในโรงพยาบาล ดูแลโดยทีมแพทย์เชี่ยวชาญ และพยาบาลไอซียูจากต่างจังหวัดอย่างใกล้ชิด ลดการส่งต่อ และลดการรอคิวเตียงไอซียูของโรงพยาบาลอื่น ๆ

Advertisment

และในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ได้ย้ายผู้ป่วยที่มีอาการหนัก 3 – 5 รายเข้ารักษาเป็นวันแรก อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเตียงว่างในโรงพยาบาลหลักจะส่งต่อผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาต่อเนื่อง

นายแพทย์กิตติศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับการปรับระบบบริการเพื่อลดภาระงาน ลดระยะเวลาการทำงานในหอผู้ป่วย ได้ให้จุดแรกรับเจาะเลือด จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์และยาอื่น ๆ จัดช่องทางด่วนกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาเร็วขึ้น และได้รับการสนับสนุนจากทหารช่วยขับรถส่งอาหารให้ในหอผู้ป่วย เคลื่อนย้ายผู้ป่วย ส่งเอกสาร

Advertisment

รวมทั้งโรงพยาบาลบุษราคัมได้เพิ่มคุณภาพการดูแล อาทิ จัดวีลแชร์เพิ่ม จัดเก้าอี้/กล่องกระดาษสำหรับผู้ป่วยใช้ขับถ่าย จัดหาเตียงลมสำหรับผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยวิกฤต ป้องกันเกิดแผลกดทับ และจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์เป็นประจำ นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเครื่องช่วยหายใจจากสมาพันธรัฐสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งหน่วยงานและผู้มีจิตศรัทธา บริจาคอาหาร น้ำ เครื่องอุปโภคบริโภคมาอย่างต่อเนื่อง