“ซัคเซสมอร์” ลุยสมุนไพรหมื่นล้าน ปูพรมกระชายขาวทั่วอาเซียน

ตลาดสมุนไพร 10,000 ล้าน ระอุ “ซัคเซสมอร์ฯ” ประกาศโดดร่วมวงเร่งศึกษา-พัฒนาสูตร ประเดิม “กระชายขาว” เป็นตัวชูโรง เตรียมส่งลงตลาด ต.ค.-พ.ย. ลุยทั้งไทย-6 ประเทศอาเซียน ลาว เมียนมา กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม มั่นใจอนาคตสดใส

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดเอื้อพฤติกรรมผู้บริโภคหันมารักษาสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดยาสมุนไพรไทยมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท มีความคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจร กระชายขาว ขิง ขมิ้น ในฐานะสมุนไพรทางเลือกที่จะช่วยรักษาโรคโควิด-19 โดยมีสรรพคุณโดดเด่นทั้งแง่การรักษาและการป้องกัน จากแนวโน้มการขยายตัวสูงเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 10% จึงทำให้ตลาดยาสมุนไพรเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต และโอกาสทางธุรกิจที่น่าจับตา

นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายอาหารเสริมและวิตามินรายใหญ่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ธุรกิจอาหารเสริมและวิตามินเติบโตต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหลัก ๆ คือการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยในหลายประเทศ ประกอบกับผู้บริโภคยุคใหม่มีความรู้และความเข้าใจในเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการรับประทานผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทั้งในแง่การป้องกัน และฟื้นฟูร่างกายที่สึกหรอตามกาลเวลา โดยเฉพาะช่วงการระบาดของโควิดที่รุนแรงในปัจจุบัน

ส่งผลให้สินค้าของซัคเซสมอร์ฯในเซ็กเมนต์การดูแลรักษาสุขภาพเติบโตขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดรวม อาทิ S Vera Plus น้ำว่านหางจระเข้, Nutriga ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มที่มีส่วนผสมช่วยเรื่องการสร้างภูมิต้านทานทั้งสิ้น

นายแพทย์สิทธวีร์กล่าวว่า ขณะที่ตลาดสมุนไพรไทยก็เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากขึ้น และได้รับการยอมรับด้านสรรพคุณการรักษาอย่างกว้างขวาง ทั้งฟ้าทะลายโจร กระชายขาว ขิง ที่ช่วยในการรักษาโควิด-19 สำหรับซัคเซสมอร์ฯล่าสุดได้มีการศึกษาและพัฒนาสูตรสมุนไพรไทย ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยตัวแรกจะมีกระชายขาวเป็นตัวชูโรง

นอกจากนี้ ยังเล็งพัฒนาสมุนไพรไทยชนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย เบื้องต้นอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนา คาดว่าจะสามารถลอนช์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดได้ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า หรือราวเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2564 นี้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการขยายตลาดสินค้าสู่กลุ่มใหม่ ยังเป็นการสอดรับกับกระแสสุขภาพของคนยุคใหม่ และเชื่อว่าจะเป็นเทรนด์ต่อไปในระยะยาว

ด้านนายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สินค้ากลุ่มสมุนไพรนี้จะจัดจำหน่ายทั้งในประเทศไทย และอีก 6 ประเทศที่ซัคเซสมอร์ฯได้ขยายตลาดเข้าไป ได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ในรูปแบบเครือข่ายขายตรง (multilevel marketing หรือ MLM) ที่มีสาขากว่า 23 สาขา โดยการทำการตลาดในปัจจุบันจะเน้นไปที่การอบรมสมาชิกอย่างเข้มข้นและละเอียดอ่อนกว่าภาวะปกติ

เนื่องจากปัจจุบันยังคงมีปัจจัยลบกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง ดังนั้น จึงต้องเน้นในเรื่องการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าของสินค้าให้แก่พาร์ตเนอร์ธุรกิจ เพื่อสื่อสารสินค้าให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างเข้าใจและครอบคลุม


“รวมถึงการใช้เครื่องมือดิจิทัลช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ และรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีสมาชิกอยู่ราว 180,000 คนทั้งในไทยและต่างประเทศ และอีกหนึ่งประการสำคัญคือ การเน้นผลลัพธ์จากการบริโภคสินค้า และสร้างประสบการณ์เชิงบวกในการขายเพื่อให้เกิดการบอกต่อในหมู่ผู้บริโภค เพราะต้องยอมรับว่าในปัจจุบันการโฆษณาในรูปแบบปากต่อปากจะมีอานุภาพสูงไม่ต่างจากการใช้ผู้มีชื่อเสียงเลยทีเดียว” นายนพกฤษฏิ์กล่าว