CPN กางแผนเยียวยาคู่ค้า บูมออนไลน์-ผนึกยักษ์การเงินหนุน SME

“เซ็นทรัลพัฒนา” ชูมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีและคู่ค้าฝ่าโควิด เปิดตัว “Serve” application แอปพลิเคชั่นดูแลคู่ค้าแบบครบวงจรเจ้าแรกในวงการศูนย์การค้าไทย พร้อมผนึกยักษ์ใหญ่การเงิน-สตาร์ตอัพรุ่นใหม่ อินเวสทรีฯ ช่วยคู่ค้าเข้าถึงเงินทุนผ่าน crowdfunding platform โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน

นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขาย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอดช่วงการระบาดของโควิดตั้งแต่ปีที่ผ่านมา บริษัทช่วยเหลือดูแลคู่ค้าในการฝ่าวิกฤตมาโดยตลอด ด้วยแผนช่วยเหลือคู่ค้าและผู้ประกอบการกว่า 15,000 รายทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกธุรกิจก้าวผ่านสู่อนาคตที่ดีขึ้นร่วมกัน ด้วยการนำเอา pain point ต่าง ๆ ของผู้เช่า มาปรับให้เป็น gain point ด้วยการใช้นวัตกรรม เพื่อส่งเสริมธุรกิจให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

ล่าสุดได้เปิดตัว Central Pattana “Serve” application แอปพลิเคชั่นเพื่อช่วยเหลือคู่ค้าแบบครบวงจรเป็นเจ้าแรกของวงการศูนย์การค้าไทย ที่มี application & solution รูปแบบดังกล่าว เพื่อให้การบริหารจัดการร้านค้าในพื้นที่อย่างง่ายดายได้ด้วยตัวเอง ทั้งติดต่อศูนย์การค้า ทำธุรกรรม รับข้อมูลข่าวสาร เข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ

รวมถึงเตรียมเปิดตัวโปรแกรม The 1 Biz : Effective CRM เพิ่มยอดขายให้คู่ค้าและแผนสนับสนุนต่อเนื่องทั้งปี ควบคู่กับการพัฒนาออมนิแชนเนลแพลตฟอร์มและบริการใหม่ เพื่อช่วยสร้างยอดขายและตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคให้กับร้านค้าต่าง ๆ อาทิ Chat & Shop, บริการ food take-away และ delivery อย่าง GrabFood, บริการ drive-thru pick up และ live streaming ในทุกศูนย์การค้า เพื่อกระตุ้นยอดขายร้านค้ามาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้เพื่อดูแลผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SMEs ที่ดำเนินธุรกิจร่วมกับศูนย์การค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 4,500 ราย เช่น ร้านค้าในโซน food park, fashion plus และ e-Center ยังได้ให้การช่วยเหลือแบบ 360 องศา ทั้งการปรับลดค่าเช่าตามความเหมาะสมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังได้จับมือกับพันธมิตรด้านการเงินรายใหม่ ๆ ที่เป็นกลุ่มสตาร์ตอัพเข้ามาช่วยเหลือในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนระยะสั้นอีกด้วย

ขณะเดียวกันยังจัดให้มี multibank loans ด้วยการผนึกกำลังกับ 7 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต และธนาคารออมสิน ช่วยเหลือคู่ค้าเพื่อเข้าถึงสินเชื่อฟื้นฟูสะดวกได้รวดเร็ว หรือเงินกู้ soft loan และวงเงิน O/D เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ด้วยระบบ grading ฐานข้อมูล credit score หรือความน่าเชื่อถือของคู่ค้าเซ็นทรัลพัฒนา ที่จะช่วย tailor-made แผนสินเชื่อให้คู่ค้าแต่ละรายได้

พร้อมกันนี้ยังเพิ่มโอกาสให้ SMEs ไทยเข้าถึงแหล่งทุนง่ายขึ้น โดยจับมือกับสตาร์ตอัพรุ่นใหม่ บริษัท อินเวสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด (อินเวสทรี) ผู้ให้บริการ crowdfunding platform ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต.ช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่องให้กลุ่มเอสเอ็มอีที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เพียงแค่ใช้ใบแจ้งหนี้การค้าหรือสัญญากับเซ็นทรัลพัฒนามาประกอบคำขอ

โดยหวังว่าบริการ investment-based crowdfunding ในรูปแบบของการออกหุ้นกู้ จะเป็นอีกทางเลือกให้ SMEs ได้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อของ SMEs เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของ GDP ขณะที่สินเชื่อภาคธุรกิจมีถึง 85% ของ GDP จะเห็นว่ามี credit gap ที่ใหญ่มากในระบบการเงินไทย