สธ. ยันวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพ ใช้เป็นสูตรไขว้ร่วมแอสตร้าฯ ภูมิคุ้มกันขึ้นเร็วและสูง ชี้องค์การอนามัยโลกยังซื้อ แจงยิบดีลซิโนแวคไร้ส่วนต่าง คิดตามราคาจริงเฉลี่ย 11.99 เหรียญ เผยหากโครงการโคแวกซ์สถานการณ์ดีขึ้นพร้อมพิจารณาเข้าร่วม
วันที่ 31 สิงหาคม 2564 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกรณีข้อสงสัยในการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค ส่วนต่างและการเข้าร่วมโคแวกซ์ โดยระบุว่า ซิโนแวคถูกนำมาใช้ในไทยครั้งแรกเมื่อ 28 ก.พ. โดยการนำมาใช้นั้น สธ. คำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ทั้งนี้ ซิโนแวค ได้ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย และผลการศึกษาในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่า ช่วยลดการระบาดของโรคได้จริง และมีเอกสารวิชาการยืนยัน
ส่วนอีกเคสหนึ่งคือการระบาดในบุคลากรทางการแพทย์ ที่ จ.เชียงราย พบว่า วัคซีนซิโนแวคช่วยลดการติดเชื้อ และลดความรุนแรงของโรคอย่างมีนัยสำคัญประมาณ 70-80% ขึ้นไป
พร้อมเน้นย้ำว่า ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนใดที่ป้องกันโควิดและป้องกันการเสียชีวิตได้ 100% แม้แต่วัคซีนไฟเซอร์ที่ฉีดในอิสราเอลและสหรัฐอเมริกาอย่างกว้างขวางก็มีการระบาดจากเชื้อกลายพันธุ์ แต่วัคซีนทุกชนิดยังมีประสิทธิผลที่ดีในการลดป่วยหนักและเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม การเข้ามาของสายพันธุ์เดลต้าทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนลดลงทุกยี่ห้อ ทางการไทยจึงหารือวิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันได้อย่างรวดเร็ว
โดยการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ได้แก่ ซิโนแวคเข็มแรก ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 ห่างกัน 3 สัปดาห์ สร้างภูมิคุ้มกันสูงเทียบเท่าแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม แต่สามารถฉีดครบ 2 เข็มได้รวดเร็วกว่า
ซึ่งมีหลักฐานทางวิชาการตรงกันทั้งนักวิชาการจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงได้จัดหาวัคซีนซิโนแวคเข้ามา
ดังนั้น การระบุว่าการฉีดวัคซีนไขว้อันตรายโดยไม่มีข้อมูลวิชาการ และไม่มีประสิทธิภาพนั้นไม่ใช่เรื่องจริง ต้องชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะประชาชนอาจกังวลและไม่กล้ามารับวัคซีน อาจกระทบต่อระบบการควบคุมโรคได้ ขณะเดียวกันองค์การอนามัยโลกมีการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคหลายร้อยล้านโดสเพื่อฉีดคนทั่วโลก เป็นการยืนยันว่าวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมเป็นตัวแทนนำเข้าวัคซีนซิโนแวค เนื่องจากทางบริษัทไม่มีตัวแทนในประเทศไทย เพื่อนำมาใช้ระหว่างรอวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า
ส่วนที่ระบุว่าประเทศไทยซื้อซิโนแวคราคาแพง 17 เหรียญนั้น เป็นราคาในล็อตแรก 2 ล้านโดสเท่านั่น
สำหรับกรณีที่ประเทศบราซิลและอินโดนีเซียได้ซิโนแวคในราคาถูกกว่านั้น เนื่องจาก ทั้ง 2 ประเทศนี้เป็นพื้นที่ในการวิจัย มีการซื้อวัคซีนเข้ามาจำนวนมากและเป็นแบบนำมาบรรจุเองทำให้ราคาถูกกว่าประเทศไทยที่ซื้อแบบสำเร็จรูป
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการเจรจาต่อรองราคาและสั่งซื้อต่อเนื่อง ทำให้สามารถลดราคาลงได้ จาก 17 เหรียญ เหลือ 8.9 เหรียญ เฉลี่ยคือ 11.99 เหรียญ
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่ามีส่วนต่างในการจัดซื้อนั้น ยืนยันว่าไม่จริง เนื่องจากการซื้อวัคซีนนั้น องค์การเภสัชกรรม เป็นผู้ไปลงทุนซื้อโดยใช้เงินองค์การเภสัชกรรม เมื่อได้วัคซีนแล้วจึงขายให้แก่กรมควบคุมโรค ซึ่งเป็นผู้ดูแลกรอบวงเงินงบประมาณจัดซื้อ โดยเรียกเก็บราคารวมค่าดำเนินการและขนส่งตามความเป็นจริง จึงไม่มีการได้รับส่วนต่างจากกรอบวงเงินที่ตั้งไว้แต่อย่างใด
ด้านนายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า การสั่งซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีการจองซื้อตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 กับผู้ผลิตตั้งแต่ก่อนได้ผลการทดลอง โดยมีเงื่อนไขและมีโอกาสที่จะไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับล่าช้า
ทั้งนี้ วัคซีนทุกตัวและทุกประเทศ รวมถึงโครงการโคแวกซ์ ก็เป็นการทำสัญญาในลักษณะการจองซื้อล่วงหน้าเช่นกัน จึงต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกันระหว่างรอผลวิจัยพัฒนา จึงไม่ใช่การทำสัญญาเสียเปรียบ เนื่องจากไม่ใช่สถานการณ์ปกติที่มีวัคซีนพร้อมให้สั่งซื้อ
ส่วนการที่ไม่จองซื้อวัคซีนผ่านโครงการโคแวกซ์ เนื่องจากเราพิจารณาตามสถานการณ์ขณะนั้น ซึ่งเมื่อวิเคราะห์แล้วคาดว่าจะส่งมอบวัคซีนล่าช้าและไทยเราอยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องจ่ายเงิน ไม่ได้รับวัคซีนฟรี
โดยปัจจุบันมี 139 ประเทศที่เข้าร่วมโคแวกซ์ และได้ส่งวัคซีนไปแล้ว 224 ล้านโดส แต่จากการเจรจาโดยตรงกับบริษัทผู้ผลิตทำให้ได้รับวัคซีนจำนวนมากกว่าและแน่นอนกว่า
อย่างไรก็ตาม หากโครงการโคแวกซ์มีสถานการณ์ดีขึ้น เงื่อนไขต่าง ๆ เหมาะสมก็จะพิจารณาเข้าร่วมได้ในเวลาถัดไป