CRG ควงแบรนด์อร่อยดี โหมแคมเปญดึงทาร์เก็ตใหม่

ซีอาร์จี ดันแบรนด์อร่อยดี เป็นหัวหอกบุกตลาดร้านอาหาร เดินหน้าเปิดแคมเปญ AROIDEE CAMPAIGN@TIKTOK CHALLNGE สร้างเอ็นเกจเมนต์ พร้อมชิงฐานคนรุ่นใหม่

วันที่ 14 กันยายน 2564 นายธนพล ธรรพสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่ม Thai & Chinese Cuisine บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เปิดเผยว่า ตลอดทั้งปีนี้ยังคงเป็นความท้าทายสำหรับธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากผู้ประกอบการยังต้องทำตลาดภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สร้างข้อจำกัดให้กับผู้ประกอบการหลายด้าน รวมไปถึงผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ลดลง ทำให้บริษัทต้องปรับตัว พลิกกลยุทธ์การตลาดอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สอดคล้องความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกันในฐานะผู้นำธุรกิจร้านอาหารมีหลากหลายแบรนด์ภายใต้กลุ่มธุรกิจ Thai & Chinese Cuisine อาทิ แบรนด์ ไทยเทอเรส  อร่อยดี เกาลูน และส้มตำนัว ที่เดินหน้าทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อเจาะผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในยุควิถีปกติใหม่ ที่มีพฤติกรรมอาศัยอยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน แต่ยังคงมองหาเมนูอาหารในแต่ละมื้อ

โดยความท้าทายหนึ่งในปัญหาใหญ่หรือ Pain point ของการรับประทานอาหารแต่ละมื้อ คือ การคัดสรรเมนู เพราะบางเมนูทานซ้ำจนเกิดอาการเบื่อ ดังนั้น บริษัทจึงวิเคราะห์ความต้องการเชิงลึกผู้บริโภค (Insight) พบว่าแต่ละสัปดาห์จะมี 1 มื้อที่รับประทานทั้งครอบครัว ที่เหลือจะเป็นมื้อเรียบง่าย แต่ต้องเป็นอาหารที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาด บริษัทจึงหันมาโฟกัสแบรนด์อร่อยดี ร้านอาหารตามสั่ง เป็นหัวหอกในการบุกตลาด ด้วยการพัฒนาเมนูแปลกใหม่ อาทิ หฤโหดโคตรกะเพรา ที่เป็นเอกลักษณ์หรือ Signature ของร้านอร่อยดี สร้างสรรค์เมนู ในราคาคุ้มค่า เพื่อสอดรับกับสโลแกนรสชาติคุ้น อิ่มครบ จบทุกมื้อ ควบคู่กับการจัดแคมเปญ  AROIDEE CAMPAIGN@TIKTOK CHALLENGE เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) กับคนรุ่นใหม่มากขึ้น

โดยแคมเปญดังกล่าว แบ่งกิจกรรมเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.แบ่งกันทาน (Duet Challenge Idea) เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมาจับคู่ หรือ Duet กับบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ ประลองความเผ็ดของกะเพราหฤโหดสูตรลับของร้านอร่อยดี 2.แข่งกันกิน (Duet Challenge) โดยให้ผู้บริโภคมาแข่งกินกะเพราหฤโหด ร้านอร่อยดี ทดสอบความเร็ว จนเกิดคอนเทนต์ฮา ๆ เติมความสนุกให้กับกลุ่มเป้าหมาย และสร้างเอ็นเกจเมนต์กับแบรนด์และเมนูของร้านอร่อยดี

และ 3.หฤโหด Challenge ให้ผู้บริโภคสร้างสรรค์วิดีโอโชว์ความโหด หลังจากที่ได้ทานกะเพราหฤโหดแล้ว ทำให้เกิดคอนเทนต์ครีเอทีฟจำนวนมาก เช่น กินแล้วทำเสียงโหด กินแล้วมีไฟออกมา กินแล้วแต่งตัวจัดจ้าน กินแล้วมีหนวดน่าเกรงขาม เป็นต้น

ทั้งนี้ การเลือกแพลตฟอร์ม TikTok มาใช้เป็นอาวุธในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากเป็นสื่อออนไลน์ที่มีการเติบโตสูง เป็นเทรนด์ที่มาแรงในช่วงที่เกิดโรคโควิด-19 ระบาด โดยจากสถิติของปี 2020 1ใน 10 วิดีโอที่ได้รับยอดวิวสูงสุดนั้นมีวิดีโอที่เกี่ยวกับอาหารติดอันดับ และได้รับยอดวิวมากถึง 1.2 ล้าน ผู้บริโภคจำนวนมากหันมาดาวน์โหลด ส่วนรูปแบบของการนำเสนอยังเป็นวิดีโอสั้น 15 วินาที มีฟิลเตอร์ เอ็ฟเฟ็กต์ ลูกเล่นมากมายดึงดูดผู้ใช้งาน ที่สำคัญคอนเทนต์ที่ถูกสร้างสรรค์ออกมามีความสนุก จนเกิดปรากฏการณ์แชร์ต่อบนสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ

ทั้งนี้ แคมเปญการตลาดถือว่าได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดี โดยมีผู้ชมกว่า 1.2 ล้านครั้ง และสร้างเอ็นเกจเมนต์จำนวนมาก เช่น Turk_tk กว่า 1.47 แสนครั้ง Bowkanyaratp กว่า 2.82 แสนครั้ง และ Meturr กว่า 1.7 แสนครั้ง รวมทั้งแคมเปญสูงถึง 700 แสนครั้ง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การทำตลาดธุรกิจร้านอาหารในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา บริษัทมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วหรือ Agile ค่อนข้างมาก โดยมุ่งให้ความสำคัญกับดีลิเวอรี่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ตลอดจนการลุยแคมเปญการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและสัมผัสประสบการณ์กับแบรนด์อยู่ตลอดเวลา เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า และขยายฐานลูกค้าใหม่ไปพร้อมกัน