นมไทย-เดนมาร์ค จ่อขึ้นทะเบียน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์” รับเทรนด์รักษ์โลก

ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. กล่าวว่า อ.ส.ค.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริษัท เอสไอจี คอมบิบล็อค จำกัด เพื่อดำเนินการขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint Label) ผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถและเสริมจุดขาย เตรียมพร้อมรองรับการแข่งขันทางการค้าในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคทั้งภายในและต่างประเทศมีแนวโน้มให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีการผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น

โดยทั้ง 3 หน่วยงานมีแผนสร้างความร่วมมือและทำงานร่วมกัน อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลวิชาการ การฝึกอบรมความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์นม ยู.เอช.ที. และการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ พร้อมสนับสนุนด้านงานวิจัย การวิเคราะห์ และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดแนวทางการประเมินฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ด้วย ซึ่งคาดว่า ภายในปี 2561 นี้ อ.ส.ค.จะขึ้นทะเบียนและติดเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์บนผลิตภัณฑ์นม ยู.เอช.ที.ไทย-เดนมาร์ควางจำหน่ายในท้องตลาดได้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทราบข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์นม ยู.เอช.ที.ไทย-เดนมาร์ค เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มผู้รักษ์สิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วยตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การประกอบชิ้นส่วน การใช้งาน และการจัดการซากผลิตภัณฑ์หรือของเสียหลังใช้งาน โดยคำนวณออกมาในรูปคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

“นอกจากเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์จะเป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคแล้ว ยังทำให้ อ.ส.ค.ทราบปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์นม ยู.เอช.ที. ซึ่งจะสามารถปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น สอดรับเทรนด์การตลาด การค้า และเทรนด์การบริโภค ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศได้เริ่มนำฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์มาใช้แล้ว อาทิ ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ แคนาดา ญี่ปุ่น และเกาหลี เป็นต้น ขณะเดียวกันยังมีการเรียกร้องให้สินค้าที่นำเข้าจากไทยต้องติดเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ด้วย”