เทรนด์แอลกอฮอล์เปลี่ยนทิศ “ฟูลมูน” งัดโซเชียลฯจับลูกค้าดื่มในบ้าน

โควิดกระทบตลาดแอลกอฮอล์ช่องทางผับบาร์ แหล่งท่องเที่ยวซบยาว ส่งผลเทรนด์ผู้บริโภคหันดื่มในบ้านมากขึ้น “ฟูลมูน” ส่งเครื่องดื่ม RTD รูปแบบ on the go รับเทรนด์ พร้อมเดินหน้าสยายปีกขายผ่านออนไลน์ สร้างการรับรู้แบรนด์ก่อนลุยการตลาดแบบ creative & innovative สร้างความหลากหลายของสินค้า ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

นายเทพอาจ กวินอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รอยัล เกทเวย์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแอลกอฮอล์พร้อมดื่มแบรนด์ “ฟูลมูน” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปัจจุบันยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดเข้ามากระทบบ้าง นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ ทำให้ผู้บริโภคเริ่มมีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น

ขณะที่มีการอยากลองดื่มสินค้าใหม่ ๆ อยู่เสมอ เช่น ถ้าไม่ถูกใจก็จะกลับไปดื่มแบรนด์เดิม แต่ถ้าชื่นชอบก็อาจจะกลายมาเป็นแฟนตัวยงของแบรนด์นั้น ๆ ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคมีรสนิยมการดื่มที่หลากหลายและปัจเจกมากยิ่งขึ้น จึงต้องการสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การดื่มที่หลากหลายตามไปด้วย

ขณะที่ภาพรวมการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงสิ้นปีนี้ ประเมินว่าค่อนข้างที่จะคึกคัก แต่ละแบรนด์เริ่มมีสินค้าใหม่ ๆ ออกมาทำตลาดมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มีสีสันได้ตลอดเวลา แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดตั้งแต่ปีที่ผ่านมาส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากการดื่มในผับบาร์มาเป็นการดื่มที่บ้าน หรือการดื่มในสถานที่ส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบกับคู่ค้าตลาดที่เป็นช่องทางจำหน่ายกลางคืนค่อนข้างสูง ทำได้เพียงจำหน่ายสินค้ากลับบ้านเท่านั้น

เทพอาจ กวินอนันต์

รวมถึงกำลังจ่ายของกลุ่มผู้บริโภคอาจจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน อาจจะทำให้ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชะลอการเติบโตเล็กน้อย

ดังนั้น บริษัทจึงมีการปรับเปลี่ยนการสื่อสารให้เข้ากับกลุ่มผู้บริโภคเรื่อยมา และในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 13 ในการเป็น brand creativity campaign กับกลุ่มเป้าหมายด้วยการขยายช่องทางรุกทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ เพิ่มช่องทางการสื่อสารโดยมีแผนจะปรับตัวเข้าช่องทางการสื่อสารเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ยิ่งปัจจุบันโซเชียลมีเดียมีหลากหลายช่องทางมาก บางช่องทางสามารถโต้ตอบกับกลุ่มเป้าหมายและกิจกรรมความประทับใจได้อย่างใกล้ชิด ด้วยการเพิ่มช่องทางการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่เต็มไปด้วย creative & innovative และการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ให้มีความวาไรตี้ ตอบโจทย์ผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มมากยิ่งขึ้น

“การทำตลาดและการสร้างแบรนด์ของฟูลมูนที่เน้นให้คนซื้อกลับไปดื่มที่บ้านหรือนอกสถานที่ต่าง ๆ (on the go) ทำให้บริษัทยังสามารถสร้างการเติบโตขึ้นอยู่ระดับหนึ่งได้แม้ในสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ ยังมองว่าโลกออนไลน์ก็ถือเป็นการเดินทางที่เติมเต็มประสบการณ์ได้อีกรูปแบบหนึ่ง บริษัทจึงปรับแคมเปญการสื่อสารสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์ม”

ควบคู่กับการเติมประสบการณ์การดื่มใหม่ ๆ ให้สอดคล้องกับโลกในยุค new normal หลังจากสถานการณ์โควิด พฤติกรรมผู้บริโภคอาจจะอยู่ในโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีลูกค้าที่ยังคงหาซื้อสินค้าในออฟไลน์เป็นส่วนใหญ่ ทำให้บริษัทก็ยังมีการบาลานซ์กลุ่มเป้าหมายมุ่งสร้างการรับรู้ควบคู่กันไป และทีมงานที่เตรียมพร้อมปรับเปลี่ยนแผนได้อย่างรวดเร็วด้วย agile mindset เพราะพฤติกรรมผู้เป็นกลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนได้เร็วกว่าแต่ก่อน และอาจจะเปลี่ยนไปไม่กลับมาเหมือนเดิมอีกต่อไป

ขณะเดียวกัน จะยังคงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ป่าล้อมเมืองที่ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่บริษัทให้ความสำคัญมาตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ก็จะยังคงให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเล็งเห็นว่าประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งคนไทยชื่นชอบการเดินทางคู่กับการดื่มสังสรรค์ ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การดื่มที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ไม่เพียงแต่กลุ่มลูกค้าจากต่างจังหวัด แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มลูกค้าในเมืองที่ออกมาท่องเที่ยวต่างจังหวัดด้วย หากสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย

“ในพาร์ตการตลาดฟูลมูนที่นำมาแก้เกมในสถานการณ์โควิด-19 เรายังคงสื่อสารเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ต่อไป แม้แบรนด์ฟูลมูนจะเติบโตมาจากแหล่งท่องเที่ยวที่มาคู่กับการเดินทางก็ตาม แต่ในยุคดิจิทัลปัจจุบันคำว่าการเดินทางเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ไม่ได้ถูกจำกัดให้ต้องเป็นการเดินทางไปในสถานที่จริง ๆ เสมอไป”