แฟชั่นเบนเข็มเสื้อผ้ากันโควิด บุกตลาดสินค้าสุขภาพชดเชยยอดร่วง

โควิด-19 ทุบตลาดแฟชั่นระทม ล็อกดาวน์ห้าง ทำยอดขายร่วง 80-90% “บูติคนิวซิตี้” ปรับแผนเร่งพัฒนาโปรดักต์ชูฟังก์ชั่นนวัตกรรมเสื้อผ้าเมดิคอลเกรด ป้องกันโควิด-ชุดพีพีอี เจาะตลาดแพทย์-ทันตแพทย์ ยันประชาชนทัวไป ส่วน “แดพเพอร์” เพิ่มธุรกิจใหม่ “เฮลท์แคร์” ปั้นยูนิฟอร์มป้องโควิดป้อนตลาด ส่วน “จีคิว” เปิดตัวแจ็กเกตสะท้อนน้ำ พร้อมขนสมุนไพรฆ่าเชื้อโรค เฟสแรกมุ่งขายออนไลน์ “แม็คยีนส์” ใช้จุดแข็งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เสริมทัพฟ้าทะลายโจร-กระชายขาว รับดีมานด์

โควิด-19 ที่ลากยาวส่งผลกระทบกับธุรกิจแฟชั่นมูลค่าหลายแสนล้านบาทอย่างหนัก ผลพวงจากมาตรการล็อกดาวน์ ปิดศูนย์การค้า work from home ฯลฯ ล้วนเป็นปัจจัยที่ดิสรัปต์ให้ผู้ประกอบการแฟชั่นต้องเร่งปรับตัว ด้วยการต่อยอดจากโนว์ฮาวด้านโรงงานหรือการผลิตที่มีอยู่เดิมมาสร้างโปรดักต์ใหม่ เพื่อสร้างรายได้ทดแทนหลักที่ลดลง

เครือสหพัฒน์ลุยเสื้อผ้าเมดิคอลเกรด

นายปณิธาน ปวโรฬารวิทยา ประธานบริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจแฟชั่นในเครือสหพัฒน์ อาทิ กี ลาโรช, จีเอสพี, C&D ฯลฯ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างหนัก โดยสำหรับบริษัทเองยอดขายจากช่องทางออฟไลน์ (ในห้าง) หายไปกว่า 80-90% และแม้จะมียอดขายจากออนไลน์เข้ามาช่วยบ้าง แต่ก็ไม่สามารถทดแทนกันได้ และธุรกิจแฟชั่นปีนี้น่าจะยังชะลอตัวอยู่ เนื่องจากโอกาสในการใช้งานลดลง การทำงานอยู่ที่บ้าน ทำให้ความต้องการในการสวมใส่ลดลง

ที่ผ่านมาบริษัทได้ทยอยปรับตัวในหลาย ๆ ด้าน เช่น ลดแบรนด์การนำเข้าเสื้อผ้าแฟชั่นหลาย ๆ แบรนด์ อาทิ TRUCCO และ STEPHANIE เป็นต้น อีกด้านหนึ่งหันมาพัฒนาแบรนด์ของตัวเอง ด้วยการพัฒนาชุดแบบ medical grade หรือชุดที่ใช้ในสถานพยาบาล โดยเฉพาะชุด PPE และเสื้อคลุมสำหรับการป้องกันผู้ปฏิบัติงาน (Isolation gown) ออกจำหน่ายตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และทยอยเปิดตัวรุ่นสำหรับทันตแพทย์เพิ่มเข้ามา ล่าสุดเป็นชุดพีพีอี ที่ช่วยลดความร้อน จากเดิมที่เป็นแบบเติมลม ก็พัฒนามาเป็นใช้ถุงน้ำแข็ง และล่าสุดเป็นแบบใช้ถุงเจลเย็น

นอกจากนี้ยังต่อยอดด้วยการผลิตเสื้อผ้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้เป็นแบบ medical grade มีคุณสมบัติในการป้องกันไวรัส เพื่อป้อนตลาด ทั้งหน้ากากอนามัย เสื้อแจ็กเกต ชุด PPE สำหรับพระสงฆ์ และหลายโปรดักต์อยู่ระหว่างการพัฒนาให้พร้อมใช้งาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากบูติคนิวซิตี้แล้ว ที่ผ่านมาบริษัท เอราวัณสิ่งทอ จำกัด บริษัทในเครือสหพัฒน์อีกบริษัทหนึ่งก็หันมาเน้นการผลิตผ้าที่เป็นฟังก์ชั่นนอลเท็กซ์ไทล์ ภายใต้แบรนด์ “เอราวัณ ยูนิฟอร์ม แอนด์ เวิร์กแวร์” โดยไตรมาสสุดท้ายนี้มีแผนเปิดตัวชุดผ่าตัดสำหรับแพทย์ ชุดสำหรับบุคลากรห้องฉุกเฉิน ที่คุณสมบัติในแง่ของป้องกันแบคทีเรีย-ไวรัส และมีแผนจะต่อยอดไปยังชุดเสื้อสำหรับประชาชนทั่วไป จากที่ผ่านมาได้เน้นการผลิตผ้าม่าแอนตี้ไวรัสนำร่องไปก่อนหน้า

แดพเพอร์แตกธุรกิจบุกเฮลท์แคร์

นางสาวศิริทิพย์ ศรีไพศาล ผู้อำนวยการธุรกิจ บริษัท แดพเพอร์เจ็นเนอรัล อะแพเร็ล จำกัด ผู้จำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น “แดพเพอร์” (Dapper) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นอกจากปัจจัยเรื่องกำลังซื้อที่ลดลงและทำให้ผู้บริโภคหันไปจับจ่ายเสื้อผ้าที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานและมีความทนทานแทน มาตรการล็อกดาวน์เพื่อลดการแพร่ระบาด ส่งผลให้ยอดขายเสื้อผ้าแฟชั่นลดลงกว่า 70-80%

จากที่ต้องปิดสาขาในพื้นที่สีแดงเข้มไป 11 สาขา และต้องหันไปให้น้ำหนักกับช่องทางออนไลน์แทน พร้อมกันนี้ยังได้ปรับตัว ด้วยการก้าวเข้าสู่ธุรกิจเฮลท์แคร์ ด้วยการจำหน่ายชุด PPE สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

โดยเป็นการต่อยอดจากแบรนด์ “DA+PP” (ดีเอ+พีพี) ในเครือแดพเพอร์ มีทั้งชุด PPE นำเข้าสำหรับหมอและพยาบาล และชุด PPE ที่ผลิตภายในประเทศ สำหรับกลุ่มที่ไม่ต้องอยู่สถานพยาบาล สามารถใช้ซ้ำได้ ช่วงแรกเน้น B2B อาทิ ร้านอาหารขนาดใหญ่ ธุรกิจเครื่องดื่ม เป็นต้น

“ถัดไปมีแผนจะพัฒนาชุด PPE ในรูปของแจ็กเกต ที่ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันเชื้อโรคสำหรับประชาชนทั่วไป พร้อม ๆ การต่อยอดไปยังเสื้อ กางเกง หน้ากากอนามัย โดยตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจใหม่นี้ 20% ในช่วงปีแรก” นางสาวศิริทิพย์กล่าว

จีคิว-แม็คยีนส์ ขนสมุนไพรขายออนไลน์

นายอชิร รวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท สุภารา กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เสื้อผ้าบุรุษ “จีคิว” ยอมรับว่า ช่วงที่ผ่านมาผลกระทบจากโควิด ส่งผลให้ตลาดแฟชั่นค่อนข้างซบเซา บริษัทต้องมีการปรับแผนการดำเนินงานในบางส่วน เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการแตกไลน์สินค้าใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและการใช้งานในช่วงนั้น ๆ

อาทิ หน้ากากอนามัย นวัตกรรมเสื้อกันน้ำ เป็นต้น ล่าสุดได้เปิดตัวนวัตกรรมเสื้อแจ็กเกตสะท้อนน้ำ พร้อมเฟซชีลด์ถอดออกได้ GQ Ultimate Protection Jacket ที่ประกอบด้วย เสื้อแจ็กเกต และเฟซชีลด์ นำร่องวางจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ ราคา 1,490 บาท จากปกติ 1,990 บาท จัดส่งฟรี และมีแผนจะขยายตลาดเข้าสู่ช่องทางออฟไลน์ในอนาคต

นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังได้จับมือพันธมิตรในการนำร่องวางจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพป้องกันโควิด อาทิ สมุนไพรสารสะกัดจากระชายขาว สเปรย์หน้า ในอนาคตหากมีกระแสตอบรับดี บริษัทก็พร้อมต่อยอดสินค้าใหม่ ๆ เพื่อรับเทรนด์อย่างต่อเนื่อง

“การปรับตัวดังกล่าว เพื่อรองรับเทรนด์ในธุรกิจแฟชั่นและความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป ซึ่งแน่นอนว่าทุกแบรนด์จะต้องมีการปรับตัว เพื่อสร้างความอยู่รอด ส่วนจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญที่มี”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช่นเดียวกับบริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ที่หันมาใช้จุดแข็งด้านอีคอมเมิร์ซ เพื่อรับสถานการณ์ดังกล่าว หลังจากที่ผ่านมาได้ปรับตัวด้วยการจำหน่ายหน้ากากอนามัย

ล่าสุดได้นำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคปซูลสารสกัดกระชายขาว แบรนด์ “พีเอ็มเอช” ผลงานวิจัยของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้นหาตัวยา มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) เข้ามาจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ของบริษัท เพื่อตอบสนองความต้องการกระชายขาวที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า