สธ. เผยฉีดวัคซีนทะลุ 50 ล้านโดสแล้ว สิ้นปี 64 เข็ม 2 ครอบคลุม 74%

สธ. ชี้ไทยฉีดวัคซีนทะลุ 50 ล้านโดส ครอบคลุมเข็มที่ 1 ราว 44.45% สิ้นปี 64 วัคซีนทะลักเดือนละ 22-24 ล้านโดส คาดฉีดเข็ม 1 ครอบคลุม 85% เข็ม 2 ครอบคลุม 74%

วันที่ 25 กันยายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า วานนี้ (24 ก.ย.) สธ. ได้ฉีดวัคซีนเนื่องในวันมหิดล ได้มากถึง 1.3 ล้านโดส ครอบคลุมทุกเข็ม และเป็นวันแรกที่เริ่มฉีดบูสเตอร์โดสเข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชนทั่วไป กลุ่มที่ได้รับซิโนแวคครบเมื่อเดือน มี.ค.-พ.ค. และจากนี้ไปขอเชิญชวนประชาชนที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม เข้ารับเข็มที่ 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกันเพิ่ม

“ภายในสิ้นปี 64 ประเทศไทยจะมีวัคซีนทั้งหมด 125 ล้านโดส และในเดือน ต.ค. จะเร่งการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทุกกลุ่มประชากร เพื่อให้คนไทยได้กลับมาใช้ชีวิตปกติให้เร็วที่สุด นำไปสู่การเดินหน้าเศรษฐกิจประเทศ”

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยถือว่าเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว โดยมียอดรวมฉีดสะสม 50 ล้านโดส เข็มที่ 1 ครอบคลุมประชากรราว 44.45% เฉพาะกลุ่มสูงอายุและ 7 โรคเรื้อรัง ครอบคลุม 57.44% แต่ทั้งนี้ เป้าหมายหลักยังคงต้องการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดกลุ่มประชากร 50 ล้านคน

ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดประจำวัน จะเป็นส่วนชี้วัดว่าประเทศไทย ต้องใช้วัคซีนป้องกันโควิดมากน้อยเท่าใด โดยวันนี้ (25 ก.ย.) มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด 11,975 ราย ภาพรวมมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ทั้งจากปัจจัยการป้องกันโควิดครอบจักรวาลของประชาชน และการระดมฉีดวัคซีน ส่งผลให้ขณะนี้ผู้ป่วยปอดอักเสบเหลือ 3,323 ราย ส่วนผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจเหลือ 729 ราย เสียชีวิต 127 ราย

อย่างไรก็ตาม ในเดือน ก.ย. นี้มียอดวัคซีนเข้าไทยจำนวน 15.7 ล้านโดส ไม่นับรวมวัคซีนทางเลือก จึงทำให้ระดมฉีดวัคซีนได้ค่อนข้างมาก

ในเดือน ต.ค. เป็นอีกเดือนที่มีวัคซีนในประเทศกว่า 24 ล้านโดส ซึ่งหากนับซิโนฟาร์มด้วยก็จะมีวัคซีนราว 30 ล้านโดส ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทำให้ยอดฉีดวัคซีนในประเทศสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่วนเดือน พ.ย.-ธ.ค. จะมีวัคซีนเข้าเดือนละ 23-24 ล้านโดส

ทำให้คาดการณ์ได้ว่าการจัดสรรวัคซีนในสิ้นเดือน ก.ย. เข็มที่ 1 จะครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 45% ส่วนเข็มที่ 2 จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 25%

ขณะที่ ต.ค. เข็มที่ 1 จะครอบคลุมประชากร 58% เข็มที่ 2 ครอบคลุมที่ 45%

ส่วนเดือน พ.ย. เข็มที่ 1 จะครอบคลุมประชากร 50 ล้านคน คิดเป็น 71% เข็มที่ 2 ครอบคลุม 60% และภายในเดือน ธ.ค. เข็มที่ 1 จะครอบคลุมประชากร 60 ล้านคน หรือคิดเป็น 85% เข็มที่ 2 มีสัดส่วน 74%

สำหรับเข็มที่ 3 สธ. ยังคงให้ความสำคัญ โดยจะส่งนัดหมายให้ประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ก่อนหน้านี้ เข้ารับวัคซีนเป็นระยะ ๆ

ด้านนายอนุทิน กล่าวเสริมว่า วัคซีนไฟเซอร์จะเริ่มเข้ามาเพิ่มภายในสิ้นเดือนนี้ และพร้อมฉีดให้แก่กลุ่มเด็ก 12-17 ปี ทันทีที่เข้ามา และขอเน้นย้ำว่าการฉีดวัคซีนมีผลคุ้มค่ามากกว่าการไม่ได้ฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน ทั้งในแง่การติดเชื้อ การแพร่เชื้อ ตลอดจนการลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต


ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ทาง สธ.จะจัดหาวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างเพียงพอ โดยก่อนหน้านี้ต้องขอขอบคุณพันธมิตรประเทศต่าง ๆ อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น ที่บริจาควัคซีนจำนวนหนึ่งในแก่ไทย และขอขอบคุณประเทศภูฏานและสิงคโปร์ ที่ให้ยืมวัคซีนป้องกันโควิดภายใต้บันทึกข้อตกลงร่วมกันอย่างชัดเจน สำหรับปี 65 การจัดหาวัคซีนถือว่ามีความเพียงพอต่อประชากรแน่นอน