ยูนิชาร์ม เปิดศึกหน้ากากอนามัย เพิ่มส่งออกมา ไทย-เวียดนาม เท่าตัว

ยูนิชาร์ม จะส่งออกหน้ากากฯ อาทิ Unicharm 3D Mask มาจำหน่ายในไทย อินโดนีเซียและเวียดนามขึ้นอีกเท่าตัว พร้อมกลยุทธ์การตลาดใหม่เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดจากสินค้าจีน

วันที่ 25 กันยายน 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัท ยูนิชาร์ม ผู้ผลิตของใช้ส่วนบุคคล อาทิ หน้ากากอนามัย ผ้าอ้อม ผ้าอนามัย ภายใต้แบรนด์ ไลฟ์รี่ และยูนิชาร์ม ประกาศเพิ่มปริมาณการส่งออกหน้ากากอนามัยมายังประเทศโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง ไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย เพิ่มอีก 1 เท่าตัว ภายในปี พ.ศ. 2566

พร้อมกับการปรับดีไซน์แพ็คเกจใหม่ โดยขยายขนาดโลโก้ “เมดอินเจแปน” ให้เด่นชัดยิ่งขึ้นเพื่อรับมือการแข่งขันกับสินค้าจากจีน และย้ำโพซิชั่นสินค้าระดับบน พร้อมเพิ่มการทำตลาดในประเด็นป้องกันมลพิษและนวัตกรรมอย่างการดีไซน์ให้หน้ากากไม่ย่นเข้าไปติดกับปากของผู้สวม ร่วมกับการป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงในประเทศต่างๆ

หลังช่วงที่ผ่านมาแม้ดีมานด์หน้ากากอนามัยในทั่วโลกจะพุ่งสูง แต่ส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ตกอยู่ในกำมือของสินค้าจากจีน โดยตามข้อมูลของบริษัทวิจัยยูโรมอนิเตอร์และหน่วยงานส่งออกของญี่ปุ่น ระบุว่า ปี 2563 ตลาดหน้ากากอนามัยโลกเติบโต 3 เท่า ส่วนในอาเซียนโตขึ้นถึง 4 เท่า ในขณะที่สินค้าจากจีนครองส่วนแบ่งในตลาดโลกเพิ่มจาก 39% เป็น 74%

ทั้งนี้ยูนิชาร์ม ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายอีก 90% เป็น 1.4 ล้านล้านเยน (4.23 แสนล้านบาท) ภายในปี 2573 ซึ่งรายได้จากการส่งออกจะมีสัดส่วนมากถึง 70% ทำให้แผนเพิ่มการส่งออกหน้ากากและการชิงตลาดจากสินค้าจีนนี้เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ