สธ. จ่อยื่น ศบค. พิจารณาวัคซีนสูตรไขว้ เชื้อตาย+mRNA และไวรัลเวคเตอร์+mRNA 14 ต.ค. นี้ ชี้เว้นระยะห่างไม่นาน ภูมิคุ้มกันสูงภายใน 1 เดือน
วันที่ 11 ตุลาคม 2564 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนป้องกันโควิดทะลุ 60 ล้านโดสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าสิ้นเดือน ต.ค. จะฉีดได้ 75 ล้านโดส ขณะที่ทั้งปี 2564 จะสามารถระดมฉีดได้ตามเป้าหมายคือ 100 ล้านโดส เนื่องจากปัจจุบันศักยภาพการฉีดของไทยเฉลี่ยอยู่ที่เกือบ 1 ล้านโดส/วัน
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ประกอบกับจำนวนวัคซีนในปัจจุบันมีสูงถึง 127-148 ล้านโดส ทั้งวัคซีนหลักจากรัฐบาล วัคซีนทางเลือก วัคซีนบริจาค และวัคซีนแลกซื้อ ซึ่งที่ผ่านมา สธ. ได้พยายามทำให้ไทยมีวัคซีนที่เพียงพอ ส่วนการฉีดวัคซีนสูตรไขว้นั้น ก็มีนักวิชาการ อาจารย์แพทย์ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์และวัคซีนคอยประเมิน
ทั้งนี้ อนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้เสนอให้พิจารณาการฉีดวัคซีนในรูปแบบไขว้มากขึ้น จากปัจจุบันมีสูตรวัคซีนเชื้อตาย+ไวรัลเวคเตอร์ และจะมีการไขว้เพิ่มในสูตร วัคซีนเชื้อตาย+mRNA ซึ่งที่ผ่านมาก็มีรายงานเข้ามาเรื่องการศึกษาวัคซีนไวรัลเวคเตอร์+mRNA มาบ้างแล้ว โดยจะเสนอ ศบค. 14 ต.ค. นี้
ส่วนปัจจัยที่ทำให้ต้องเพิ่มการไขว้สูตรวัคซีนนั้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วัคซีนหลักในไทยคือแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งมีการเว้นระยะห่างการฉีดเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 นานถึง 12 สัปดาห์ การไขว้วัคซีนจะใช้เวลาสั้นลงและเกิดภูมิต้านทานขึ้นสูงภายใน 1 เดือน