ราชประสงค์ผุด Festival Economy ดึงพลังศรัทธาปลุกโค้งท้าย

แฟ้มภาพประกอบข่าว

นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) ย้ำว่า วัคซีนพาสปอร์ต เป็นโจทย์สำคัญที่จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเจ้ามาในช่วงโค้งท้าย ซึ่งภาครัฐต้องเร่งเจรจากับประเทศต่าง ๆ 

วันที่ 20 ตุลาคม 2564 นายชาย ศรีวิกรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) กล่าวว่า ย่านราชประสงค์เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความศักดิ์สิทธิ์ด้วยรูปเคารพเทพฮินดู อาทิ พระพรหม พระพิฆเนศ พระตรีมูรติ พระแม่ลักษมี ท้าวจตุโลกบาล ท้าวอัมรินทราธิราช พระนารายณ์ทรงสุบรรณ และพระแม่จุมาเทวี รวม 8 องค์เทพ 10 จุดสักการะ ซึ่งมีชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ไต้หวันเดินทางมาสักการะเป็นประจำ 

จึงได้เตรียมต่อยอดความศรัทธานี้ พร้อมยกระดับให้เป็นงานเทศกาลประจำปีเพื่อดึงดูดทั้งผู้ศรัทธาชาวไทย และต่างชาติ มาสร้างความคึกคัก และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ย่านฯ อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกปี ปีละหลายครั้ง ด้วยกลยุทธ์ “เฟสติวัล อีโคโนมี” (Festival Economy) ในชื่องาน “เทศกาลราชประสงค์ 8 องค์เทพ” 

ประเดิมด้วย “พิธีสักการะบวงสรวงท้าวมหาพรหม” ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งมีทั้งการนำเทคโนโลยีไลฟ์สด เข้ามาถ่ายทอดตัวพิธีการซึ่งมีนักแสดงดัง “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” มาร่วมรำถวาย และใช้เวอร์ชวลเรียลิตี้สำหรับให้ผู้ศรัทธาทั่วโลกได้ร่วมสักการะเทพทั้ง 8 องค์แบบเสมือนจริงพร้อมถ่ายรูปที่ระลึกผ่านออนไลน์แล้ว 

ยังกระตุ้นการรับรู้และความต้องการมีส่วนร่วมทั้งจากกลุ่มผู้ศรัทธาและคนทั่วไป ด้วยการใส่สตอรี่หรือเรื่องราวด้านประวัติศาสตร์และความศักดิ์สิทธิ์เข้าไป ผ่านการจัดรายการพิเศษ “เจาะลึกเรื่ององค์เทพจากมุมมองผู้เชี่ยวชาญตัวจริง” ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์-โบราณคดี นักเทววิทยา และซินแส เช่น เผ่าทอง ทองเจือ อดีตคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, พิทักษ์ โค้ววันชัย นักเทววิทยา และเอก ล้อประเสริฐกุล ซินแสผู้เชี่ยวชาญด้านการไหว้พระเสริมมงคล เป็นต้น มาจัดรายการ 3 ตอน ผ่านทางเฟสบุ๊กไลฟ์ในวันที่ 21, 28 ตุลาคม และ 4 พฤศจิกายน สร้างกระแสก่อนงานวันที่ 9 พฤศจิกายน พร้อมจับมือผู้ประกอบการในพื้นที่ อาทิ ร้านอาหาร เพื่อใช้จังหวะนี้เพิ่มโอกาสขายและกระจายรายได้ไปยังธุรกิจต่าง ๆ ในพื้นที่อีกด้วย 

และหลังจากนี้จะมีการจัดงานเทศการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นประจำเพื่อรักษาฐานแฟนขาประจำทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างวางแผนจัดงานเคานต์ดาวน์ ส่วนปี 2565 จะเดินหน้าจัดเทศกาล ตรุษจีน วาเลนไทน์ สงกรานต์ อย่างต่อเนื่อง

“ความศรัทธาเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ราชประสงค์มีอย่างเข้มข้น และสามารถแปลงให้เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจได้” 

ขณะเดียวกัน นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 พ.ย. ที่จะถึงนี้ว่า หน่วยงานรัฐต้องเร่งสร้างความชัดเจนเรื่อง วัคซีนพาสปอร์ต และข้อตกลงยกเว้นการกักตัวนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับไปจากประเทศไทย มิเช่นนั้นมีโอกาสสูงที่นักท่องเทียวจะเดินทางเข้ามาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากต้องถูกกักตัวเมื่อกลับไปยังประเทศของตน 

ทั้งนี้เชื่อว่าหากสามารถเคลียร์เงื่อนไขนี้ได้ เป้าหมายนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน ที่ททท.วางไว้ยังสามารถเป็นไปได้ เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวทั่วโลกพร้อมและต้องการเดินทาง สะท้อนจากในยุโรป สหรัฐอเมริกาและจีน ที่ผู้คนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างคึกคักแล้ว 

“นักท่องเที่ยวหลายประเทศพร้อมจะเข้ามากันอยู่แล้ว แม้ไม่มีการดึงดูดหรือกระตุ้น เพียงแต่ต้องแก้โจทย์ด้านความปลอดภัยและความเชื่อมั่นเรื่องการไม่ถูกกักตัวทั้งขามาและกลับ”