เฮลท์ลีดเพิ่มดีกรีปูพรมร้านขายยา-ระดมทุนต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจ

เฮลท์ลีดปรับโครงสร้างใหญ่เป็นโฮลดิ้ง คุมไอแคร์เฮลท์ 4 เชนร้านขายยายักษ์-เฮลทิเนส ธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ กางแผนระดมทุน mai 72 ล้านหุ้น ต่อยอดขยายสาขาร้านยาคลุม กทม.-ปริมณฑล ปีละ 5 สาขา ย้ำเป้าผู้นำตลาด

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 เภสัชกรธัชพล ชลวัฒนสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการร้านยาฟาร์แมกซ์ ต่อมาได้นำธุรกิจร้านขายยาทั้งหมดในเครือ ได้แก่ ไอแคร์ ฟาร์แมกซ์ ไวตามินคลับ และซูเปอร์ดรัก เข้ามารวมอยู่ในหน่วยธุรกิจเดียวกันภายใต้บริษัท ไอแคร์ เฮลท์ จำกัด

พร้อมกับจัดตั้งเฮลท์ลีดเป็นบริษัทโฮลดิ้งในปี 2561 เพื่อเข้าถือหุ้นใน 2 บริษัทหลักดั้งเดิม คือ 1.บริษัท ไอแคร์ เฮลท์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเชนสโตร์ร้านขายยา และ 2.บริษัท เฮลทิเนส จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ PRIME และ Besuto เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ

โดยคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนได้ราวเดือนธันวาคม 2564 นี้ เบื้องต้น จะระดมทุน 72 ล้านหุ้น หุ้นละ 0.50 บาท

ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนหลัก ๆ จะใช้สำหรับการขยายสาขาในธุรกิจร้านขายยา ที่มีมูลค่าตลาดถึง 35,500 ล้านบาท และยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากเทรนด์ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพ และมองหาสินค้าที่มากกว่ายา ซึ่งปัจจุบันร้านขายยาในเครือของบริษัท มีหลากหลายโมเดลหลากหลาย เจาะผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม และมีสินค้ากว่า 10,000 เอสเคยู ทั้งยา อุปกรณ์การแพทย์ อาหารเสริม เวชสำอาง

ปัจจุบันไอแคร์ เฮลท์ มีร้านยาในเครือทั้งหมด 25 สาขา แบ่งเป็นไอแคร์ 10 สาขา, ฟาร์แมกซ์ 11 สาขา, ไวตามิน คลับ 3 สาขา และซุปเปอร์ ดรัก 1 สาขา โดยบริษัทตั้งเป้าสร้างการเติบโตระยะยาวด้วยการขยายสาขาเคลื่อนเข้าหาผู้บริโภคปีละ 4-5 สาขา กระจายตัวในเขต กทม.-ปริมณฑล ย่านทำเลทองทราฟฟิกสูง

ส่วนการจะขยายภายใต้แบรนด์ใดนั้น ขึ้นอยู่กับโลเกชั่น หากเป็นย่านชุมชนจะต้องเป็นไอแคร์ ฟาร์แมกซ์เจาะย่านธุรกิจกลางเมือง กำลังซื้อสูง ส่วนไวตามิน คลับ เน้นไลฟ์สไตล์ขายวิตามิน อาหารเสริม เวชสำอาง เกาะตามห้างสรรพสินค้า ขณะที่ซุปเปอร์ดรักเป็นโมเดลไฟติ้งของบริษัท จับย่านที่มีการแข่งขันด้านราคาสูง

นอกจากนี้ เงินอีกส่วนหนึ่งที่ได้จากการระดมทุนจะใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อต่อยอดธุรกิจนวัตกรรมแห่งอนาคต ภายใต้การบริหารของเฮลทิเนส ซึ่งปัจจุบันทำทั้งเจลเคลือบผิวป้องกันไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราได้

“การเข้าระดมทุนไตรมาส 4 นี้ นอกจากจะเป็นการต่อยอดความแข็งแกร่งธุรกิจใน 2 บริษัทย่อยในเครือแล้ว อีกมุมหนึ่งยังยกระดับความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ และยังคงความเป็นผู้นำ 1 ใน 5 ของตลาดร้านขายยา”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เฮลท์ลีด ตั้งแต่ปี’61 มีรายได้รวม 791 ล้านบาท กำไรสุทธิ 0.39 ล้านบาท ปี’62 มีรานได้รวม 915 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21 ล้านบาท ปี’63 มีรายได้รวม 1,080 ล้านบาท กำไรสุทธิ 52 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรก’64 มีรายได้รวม 556 ล้านบาท กำไรสุทธิ 32 ล้านบาท