CPN ตัดริบบิ้นมิกซ์ยูสยักษ์ เซ็นทรัลอยุธยาเปิด 30 พ.ย.

เซ็นทรัล อยุธยา

“ซีพีเอ็น” ได้ฤกษ์ตัดริบบิ้นโครงการมิกซ์ยูสยักซ์ “เซ็นทรัล อยุธยา” 30 พ.ย. ศูนย์การค้า-คอนโดฯ-โรงแรม-คอนเวนชั่นฮอลล์ ครบ เจาะคนในพื้นที่-นักท่องเที่ยวไทยและเทศ มั่นใจบิ๊กอิมแพ็กต์ปลุกเศรษฐกิจ-เติมเต็มมรดกโลก

นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจะให้บริการโครงการ “เซ็นทรัล อยุธยา” ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ โดยโครงการดังกล่าวเป็นมิกซ์ยูสขนาดใหญ่บนที่ดิน 47 ไร่ พื้นที่รวม 68,000 ตร.ม. ที่มีมูลค่าการลงทุนกว่า 6,200 ล้านบาท และถือเป็นประตูสู่ภาคเหนือและอีสาน

นอกจากนี้ โครงการนี้ยังจะยกระดับและเติมเต็มการท่องเที่ยวอยุธยาทั้งระบบ ส่งเสริม SMEs และผลิตภัณฑ์ชุมชน กระตุ้นและสร้างเม็ดเงินกระจายรายได้ พร้อมเป็นศูนย์กลางสร้างย่านเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดของอยุธยา ฉลองในโอกาสครบรอบ 30 ปีที่อยุธยาเป็น UNESCO World Heritage

“การปักหมุดสร้างโครงการเซ็นทรัล อยุธยา อย่างเต็มรูปแบบ Fully-Integrated Mixed-Use Development บนทำเลยุทธศาสตร์ที่เป็นเขตเศรษฐกิจ จะสร้าง big impact ที่ยกระดับอยุธยาไปอีกขั้น โดยวางเป้าหมายในการปั้นเมืองอยุธยาให้เป็น The Cultural Capital เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศที่ชาวต่างชาติจะต้องนึกถึง รวมถึงเมืองที่นักท่องเที่ยวไทยเองก็อยากจะมาใช้เวลาท่องเที่ยวให้นานขึ้น ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลสะท้อนในการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนต่าง ๆ ทั่วจังหวัดด้วย” นายชนวัฒน์กล่าวและว่า

โดยกลยุทธ์การตลาดจะเน้นการโฟกัสในเรื่องของการเชิดชูความภูมิใจและเติมเต็มการใช้ชีวิตของชาวอยุธยา (Complete The Heritage City) พร้อมดึงศักยภาพเมืองด้วย Kyoto Model ดึงเอกลักษณ์เมืองมรดกโลกพร้อมเติมเต็มด้วยพื้นที่การค้าและศูนย์กลางการใช้ชีวิต โดยชูความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมร่วมสมัย โดยมุ่งเจาะกลุ่มชาวอยุธยา 85% นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ 15%

โครงการเซ็นทรัล อยุธยา ประกอบด้วย ศูนย์การค้า 4 ชั้น รวม 400 ร้านค้า, คอนโดมิเนียม 400 ยูนิต โรงแรม 220 ยูนิต รองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ, คอนเวนชั่นฮอลล์ ศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ พื้นที่จัดงาน 2,000 ตร.ม. รองรับได้กว่า 2,000 คน และ Cultural Space พื้นที่ Interactive Museum ที่จะเปิดให้บริการในไตรมาส 4 ปี 2565

ขณะที่ ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ โครงการยังจะเน้นการอนุรักษ์และยกระดับการท่องเที่ยวอยุธยาทั้งระบบ (Complete The Tourism Ecosystem) โดยที่ เซ็นทรัล อยุธยา จะช่วยสปริงบอร์ดในการกระตุ้นและฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศตั้งแต่ไตรมาส 4 นี้เป็นต้นไป

และปูพรมต่อเนื่องถึงปี 2565 ด้วยการเป็นจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ครบครัน และเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งแบบ Day-to-Night ช่วยส่งเสริมให้เที่ยวอยุธยาได้นานขึ้น ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว กระจายรายได้ไปให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและชุมชนต่าง ๆ มากขึ้น

รวมทั้งการยกระดับท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างและกระจายรายได้ (Complete Communities Cocreation) โดยโครงการจะนำเอาความโดดเด่นและภูมิปัญญาท้องถิ่นในด้านต่าง ๆ มารวมไว้ในที่เดียว ด้วยบทบาทในการเป็น Food & Craft Curator โดยร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งเสริมและเพิ่มช่องทางจำหน่ายในงาน “อยุธยาของอร่อย ของดี ของเด่น จากทั้ง 16 อำเภอ”

หรือในส่วนของท็อปส์ มาร์เก็ต ก็จะนำโมเดลตลาดจริงใจ Farmer’s Market ตลาดชุมชนรูปแบบใหม่ที่ประสบความสำเร็จจากเชียงใหม่ มาทำเป็น Weekend Market ตลาดสินค้าชุมชนในบรรยากาศเอาต์ดอร์ จำหน่ายทั้งสินค้าเกษตรกรรมและงานหัตถกรรมคุณภาพดีของอยุธยา เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ฐานราก ด้านการสนับสนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยวท้องถิ่น

พร้อมกันนี้ยังได้จับมือกับชุมชน เพื่อสร้างการท่องเที่ยวในรูปแบบของ Local Alike ในการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดไปยังชุมชนต่าง ๆ ของอยุธยาได้อย่างทั่วถึง เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แตกต่าง และสร้างพลังเชิงบวกให้กับชุมชน นอกจากนี้ยังมีแผนการเตรียมต่อยอดกับภาครัฐ ส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวและโปรแกรมส่งเสริมไกด์ท้องถิ่นอีกด้วย