“แพลนบี” รุกสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งปั๊มรายได้

แพลนบี Plan-B

“แพลนบี” เดินหน้าลงทุนรับการเติบโต-อุตสาหกรรมโฆษณาดีดกลับ เตรียมทุ่มงบฯ 1.5 ล้าน ลุยบิลบอร์ดเจาะย่านทราฟฟิกสูงกลางเมือง ป้ายโฆษณาแอลอีดีในร้านสะดวกซื้อยักษ์ ครบ ซื้อสิทธิการตลาดธุรกิจสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง เพิ่มโฟกัสกีฬาสากล มวย อีสปอร์ต วิ่ง ฟุตบอล ศึกษา M&A ธุรกิจเสริมแกร่งไตรมาส 1 ปี’65

นายธนพร เตชวิวรรธน์ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แพลนบี จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดที่ส่งผลให้มีการล็อกดาวน์ในหลาย ๆ กิจการ รวมถึงมีการประกาศเคอร์ฟิวบางพื้นที่ ทำให้การบริโภคและการใช้จ่ายภาคเอกชนปรับตัวลดลงตามกำลังซื้อที่อ่อนแอลง และแบรนด์สินค้าต่างชะลอหรืองดการใช้จ่ายงบประมาณทางการตลาด

โดยเฉพาะกับสื่อโฆษณานอกบ้าน (OOH) ที่เป็นธุรกิจหลักของแพลนบี เนื่องจากประชาชนลดการออกจากบ้าน กระทบต่อจำนวนทราฟฟิกสื่อนอกบ้าน ส่งผลให้ในไตรมาส 3 เม็ดเงินโฆษณาโดยรวมมีมูลค่า 24,997 ล้านบาท หดตัว 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 27,722 ล้านบาท และหากเจาะลึกเฉพาะสื่อนอกบ้านพบว่า หดตัวลง 14% เหลือ 2,326 ล้านบาท จากในปี 2563 ที่มีเม็ดเงินราว ๆ 2,692 ล้านบาท ในส่วนของแพลนบีมีอัตราการใช้สื่อโฆษณา (utilization rate) ในไตรมาสที่ 3/2564 อยู่ที่ 33.8% ลดลงจากปีก่อนที่มีอัตราการใช้สื่อโฆษณาที่ 40.3%

อย่างไรก็ดี สำหรับในช่วงไตรมาส 4 นี้ จากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และมีปัจจัยบวก อาทิ การเปิดประเทศ การปูพรมฉีดวัคซีนในกลุ่มประชาชนเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาฟื้นตัวในรูปแบบ V shape เช่นเดียวกับปี 2563 แต่เม็ดเงินในโค้งท้ายอาจไม่ก้าวกระโดดนัก เพราะยังมีความยืดเยื้อของตัวเลขผู้ติดเชื้อในหลักพัน ทั้งนี้ ข้อมูลจากนีลเส็นคาดการณ์ได้ว่า ปิดปี 2564 อุตสาหกรรมโฆษณาจะมีเม็ดเงินราว 109,310 ล้านบาท ขยายตัว 3% หมวดสินค้าที่จะกลับมาเทงบฯหลัก ๆ ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม และรถยนต์ ส่วนสื่อ OOH จะกลับมาฟื้นตัวอยู่ที่ราว 1%

สำหรับแผนการลงทุนจากนี้ไป แพลนบีมองใน 2 ทิศทาง คือ การขยายสื่อโฆษณาไปยังจุดทราฟฟิกสูง ล่าสุดได้ขออนุมัติผู้ถือหุ้นซื้อสินทรัพย์จำนวน 1,500 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งราว 500 ล้านบาท จะนำมาซื้อป้ายบิลบอร์ดจากบริษัท มาสเตอร์แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ผู้ดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณากลางแจ้ง เพื่อต่อยอดอีโคซิสเต็มของแพลนบีในแง่การทำโฆษณาเจาะยุทธศาสตร์ทำเลทองใจกลางเมืองมากขึ้น หากสถานการณ์โควิดปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

คาดว่าสื่อโฆษณากลางแจ้งของ MACO จะทำรายได้ให้แพลนบีต่อไปไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท พร้อมกันนี้ก็จะรุกสื่อโฆษณาขนานคู่ไปกับธุรกิจรีเทลอย่าง ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ที่มีการติดตั้งจอ LED ไปแล้วกว่า 1,500 สาขา และคาดว่าภายในปี 2564 จะติดตั้งได้ทั้งหมด 2,000 สาขาทั่วประเทศ และจะเพิ่มเป็น 3,000 สาขา ภายในปี 2565 อย่างไรก็ตาม จากผลประกอบการ 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) สะท้อนได้ว่า สื่อโฆษณาในเซเว่นฯทำรายได้อยู่ที่ 200 ล้านบาท ปิดปีน่าจะทำรายได้อยู่ที่ราว 300 ล้านบาท

ADVERTISMENT

ขณะที่อีก 1,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งจะมาลงทุนธุรกิจสำคัญอื่น ๆ ที่จะเพิ่มโฟกัส คือ ธุรกิจสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ภายใต้ชื่อ PLANB STADIUM โดยจะบุกตลาดกีฬาต่อเนื่องมากขึ้น 5 รายการ แบ่งเป็น 1.International Broadcast อาทิ โอลิมปิก ซึ่งที่ผ่านมาในโอลิมปิกได้ค่าบริหารสิทธิทางการตลาดอยู่ที่ 154 ล้านบาท และขณะนี้ได้มีการเจรจารับสิทธิเอเชียนเกมส์เป็นที่เรียบร้อย ส่วนโอลิมปิก ปารีส อยู่ระหว่างการเจรจาหารือร่วมกัน

2.Combat Sports หรือกีฬามวย หนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์และกิมมิกที่โดดเด่นของประเทศไทย และกำลังจะได้รับการบรรจุเป็นกีฬาในโอลิมปิก โดยบริษัทได้ตั้งบริษัทย่อย GSV ขึ้นเพื่อบุกตลาดมวยไทยและสากลโดยเฉพาะ โดยมีการฟื้นฟูกีฬามวย ควบคู่กับการจัดปรับรูปแบบการแข่งขันให้น่าสนใจมากขึ้น เช่น การทำรูปแบบการเก็บคะแนนแบบ point system, มีการจัดทำลีกแชมเปี้ยนชิป, ดึงนักกีฬาขึ้นมาโปรโมตรายการ รวมไปถึงการจัดอีเวนต์กีฬามวย ซึ่งจัดขึ้น 2 งาน ได้แก่ มวยบุรีรัมย์ 30 ก.ย.-21 พ.ย. และราชดำเนินซูเปอร์ไฟท์ การแข่งขันมวยแบบครอสโปรโมเตอร์ครั้งแรก ในวันที่ 26 พ.ย.นี้

ADVERTISMENT

และ 3.ฟุตบอล อีกหนึ่งคีย์ไดเวอร์หลัก โดยแพลนบีได้สิทธิ์ดูแลสมาคมฟุตบอล 8 ปี (2564-2571) สามารถได้สิทธิบริหารการตลาดไทยลีกได้ 4.อีสปอร์ต ผ่านการจัด E-LEAGUE THAILAND และพัฒนาเกม และ 5.Running โดยมีแพลนจัดกิจกรรมงานวิ่งประมาณ 10 รายการในปีหน้า ตีคู่การท่องเที่ยวดีดกลับ นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทยังเตรียมการศึกษาแนวทางการทำ M&A กับพาร์ตเนอร์รายอื่น ๆ ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้นในต้นปีหน้า