น้ำผลไม้พรีเมี่ยมแข่งเดือด ปรับรับ “สุขภาพ-ภาษีน้ำตาล”

ตลาดน้ำผลไม้พรีเมี่ยมเดือดรับเทรนด์สุขภาพ-ภาษีน้ำตาล “ทิปโก้” ส่งซับแบรนด์ใหม่ ลุยหวานน้อย-แคลอรีต่ำ พร้อมเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่ 3-5 รายการต่อปี ด้าน “ดอยคำ” บุกหนักน้ำมะเขือเทศ เดินหน้าเติมสินค้าเพื่อสุขภาพไม่หยุด

นายเอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ เอฟ แอนด์ บี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ภายใต้แบรนด์ทิปโก้ ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมาตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 14,000 ล้านบาทในภาพรวม ตลอดจนเซ็กเมนต์ของน้ำผลไม้พรีเมี่ยมที่มีมูลค่า 5,000 ล้านบาท ค่อนข้างทรงตัว จากภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตให้กับยอดขายจึงต้องมีการออกสินค้าใหม่ออกมากระตุ้น ประกอบกับกิจกรรมตลาด การสื่อสารที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง

โดยบริษัทได้ทำการศึกษาพบว่าตลาดน้ำผลไม้ยังมีโอกาสจากเซ็กเมนต์ที่มีแคลอรีต่ำ และน้ำตาลน้อย แม้จะมีขนาดตลาดไม่ใหญ่มาก 77 ล้านบาท แต่มีศักยภาพเติบโตสูง โดยปีนี้คาดว่าจะเติบโต 51% และในอีก 3-5 ปีข้างหน้า คาดว่าตลาดจะมีมูลค่าสูงถึง 500 ล้านบาทเพื่อรับกับโอกาสดังกล่าว จึงได้พัฒนาซับแบรนด์ของทิปโก้ขึ้นภายใต้แบรนด์ “ทิปโก้ มี” ซึ่งจะเป็นกลุ่มของน้ำผลไม้ที่ลดปริมาณแคลอรี และน้ำตาลลงจากสูตรปกติ 50% และมีการใช้สารสกัดจากหญ้าหวานแทนน้ำตาล มีทั้งหมด 2 รสชาติ ได้แก่ น้ำแอปเปิล และน้ำเบอรี่

นอกจากนี้ สินค้าดังกล่าวยังได้รับสัญลักษณ์เครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพ หรือ Healthier Choice ซึ่งเป็นการการันตีจากมูลนิธิส่งเสริมโภชนาการ สอดคล้องไปกับนโยบายของภาครัฐที่พยายามผลักดันเรื่องการบริโภคน้ำตาล ตลอดจนมีปริมาณน้ำตาลน้อย จึงไม่อยู่ในเกณฑ์เสียภาษีความหวาน ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิตฉบับใหม่ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ที่ทำให้เครื่องดื่มทุกชนิดที่มีปริมาณน้ำตาลสูงกว่า 6 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จะมีภาระภาษีเพิ่มขึ้น

“ในอนาคตก็จะมีการพัฒนาสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ มีน้ำตาลน้อย และได้รับสัญลักษณ์ Healthier Choice ออกมาเรื่อย ๆ เพื่อรับกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่ใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้นและภาษีความหวาน แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของน้ำผลไม้ 100% ที่เข้าข่ายเกณฑ์ต้องเสียภาษีความหวาน ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อต้นทุนเล็กน้อย แต่ยังไม่มีแผนปรับราคาขึ้น โดยจะไปปรับลดต้นทุนในด้านอื่นแทน เช่น การผลิต ฯลฯ”

นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ระบุว่า การทำตลาดในปีนี้จะเน้นสร้างให้ตราสินค้าดอยคำเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในฐานะตราสินค้าน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากผลผลิตมะเขือเทศ ซึ่งดอยคำมีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 90% ของตลาดน้ำมะเขือเทศ

ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดของตลาดน้ำผลไม้พรีเมี่ยมภาพรวมอยู่ที่ 20%เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในตลาดน้ำมะเขือเทศ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านสุขภาพ จึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้อยู่ตลอด อาทิ น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผักรวม 99%-เวอร์จินแมรี มีน้ำตาล 2.5 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จึงได้รับสัญลักษณ์ Healthier Choice ด้วย และมะเขือเทศทาขนมปัง เมื่อเดือนที่ผ่านมา ต่อยอดจากสินค้าเดิม อาทิ น้ำมะเขือเทศ 99% น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม 98% ม็อกเทล และน้ำมะเขือเทศ 99% สูตรโซเดียมต่ำ

โดยที่ผ่านมาดอยคำได้พัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพ ในกลุ่มหวานน้อย และไม่มีน้ำตาล ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ น้ำเจียวกู้หลานและดอกคำฝอย สูตรไม่เติมน้ำตาล น้ำเสาวรส 50% สูตรน้ำตาลน้อยกว่า น้ำใบแปะก๊วยและหล่อฮั่งก้วย สูตรไม่เติมน้ำตาล เป็นต้น