“ไทยเบฟ” โดย บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (QSA) ปิดดีล “เคเอฟซี” ล็อตสุดท้าย 252 สาขา จากบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่าประมาณ 11,400 ล้านบาท
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายธุรกิจอาหาร (ประเทศไทย) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เคเอฟซี เป็นมากกว่าโอกาสในการขยายธุรกิจอาหารของไทยเบฟ เพราะนอกจากเข้ามาเสริมทัพกลุ่มธุรกิจอาหาร ขยายพอร์ตธุรกิจอาหารของไทยเบฟให้เติบโตขึ้นแล้ว ยังเป็นช่องทางต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะเครื่องดื่ม เพราะธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม สามารถไปด้วยกันเป็นแพ็คเกจได้เป็นอย่างดี
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
“เรามั่นใจว่าเครือข่ายสาขาของเคเอฟซีที่กระจายอยู่ทั่วประเทศจะทำให้กลุ่มบริษัทสามารถเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากทั่วประเทศได้โดยตรงและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าใจเทรนด์ ความต้องการ และช่วยให้บริษัทก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว”
ด้วยความชำนาญด้านการบริหารจัดการธุรกิจบริการอาหารแบบเร่งด่วนของ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เราจะสามารถผลักดันและเร่งขยายสาขาของเคเอฟซีประเทศไทยได้อย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้ และเรามองว่าโอกาสในการร่วมงานกับกลุ่มบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด จะช่วยให้บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด เป็นผู้นำธุรกิจแฟรนส์ไชส์ร้านอาหารมาตรฐานระดับโลก และทำให้แบรนด์เคเอฟซีเข้าถึงผู้บริโภคได้ในวงกว้าง
“ธุรกิจร้านอาหารเคเอฟซีจะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่เข้ามาผนึกกำลังกับธุรกิจอาหารของไทยเบฟ เพื่อเติมเต็มและเสริมสร้างความเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นางนงนุช กล่าวปิดท้าย
