Spider-Man No Way Home กู้วิกฤตโรงหนัง แห่จองตั๋ว-ดูซ้ำ ดันรายได้พุ่ง

นอกจากจะกู้โลกเหล่าร้ายแล้ว ในโค้งท้ายของปี 2564 นี้ ไอ้แมงมุม ฮีโร่จากมาร์เวลรายนี้ได้กลายเป็นความหวังใหม่ของธุรกิจโรงหนังในสหรัฐ รวมไปถึงทั่วโลกอีกด้วย หลังภาพยนตร์ภาคล่าสุด “สไปเดอร์แมน โน เวย์ โฮม” ภาคต่อที่ 3 ของสไปเดอร์แมนในยุค “ทอม ฮอลแลนด์” ได้รับการตอบรับจากแฟน ๆ ในสหรัฐอย่างคับคั่งเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์จากบอกซ์ออฟฟิศ จนมีลุ้นที่จะเข้าไปอยู่ในทำเนียบ 10 ภาพยนตร์ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงตลอดกาล

สำนักข่าว “ซีเอ็นบีซี” รายงานถึงกระแสนี้ว่า สไปเดอร์แมน โน เวย์ โฮม ได้ทุบสถิติยอดขายบัตรช่วงเปิดตัวในสหรัฐ โดยเพียงวันแรก (17 ธ.ค.) สามารถโกยเม็ดเงินไปกว่า 121.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4 พันล้านบาท เกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ในวงการ และโซนี่-ดิสนีย์ที่เป็นผู้สร้างซึ่งต่างคาดว่ายอดขายบัตรช่วงสุดสัปดาห์แรก (17-19 ธ.ค.) จะอยู่ที่ประมาณ 100-130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“พอล เดอกาลาบีเดียล” นักวิเคราะห์อาวุโสของคอมสกอล บริษัทวิจัยสื่อรายใหญ่สัญชาติสหรัฐ กล่าวว่า ก่อนหนังเข้าฉายหลายฝ่ายยังกังวลเรื่องผลกระทบจากโรคโควิด-19 จึงวางเป้าช่วงเปิดตัว 4 วันแรกไว้ที่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ “สไปเดอร์แมน โน เวย์ โฮม” กลับเปิดตัวอย่างสวยงามและทลายความกังวลนี้ไปหมด ด้วยยอดขายบัตรเข้าชมทะลุ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้ตั้งแต่วันแรก

และมียอดขายบัตรรอบพรีวิวเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ เป็นรองเพียง “อเวนเจอร์ส เผด็จศึก” (60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ “สตาร์ วอร์ส : อุบัติการณ์แห่งพลัง” (57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เท่านั้น

สอดคล้องกับความเห็นของ “ชอน รอบบิ้น” หัวหน้านักวิเคราะห์จากบอกซ์ออฟฟิศดอตคอม ที่ระบุว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในการสร้างกระแสที่ช่วยดึงคอภาพยนตร์หลายรายให้กลับมาใช้บริการโรงหนังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 และเชื่อว่ากระแสการบอกต่อ รวมถึงบรรยากาศท้ายปีที่กำลังคึกคักจะช่วยหนุนความนิยมไปจนถึงสิ้นปี

ผลตอบรับดีเกินคาดนี้ ทำให้ทั้งโซนี่และดิสนีย์ ตัดสินใจปรับคาดการณ์รายได้สุดสัปดาห์แรกเพิ่มอีกเกือบ 2 เท่าจาก 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7.99 พันล้านบาท ในขณะที่นักวิเคราะห์ในวงการคาดว่าตัวเลขยอดขายบัตรจะพุ่งไปถึง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอาจไปได้ถึง 265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 8.82 พันล้านบาท

นอกจากตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำยอดขายบัตรช่วงเปิดตัวได้สูงสุดในช่วงโควิด-19 หลังแซงเวน่อม 2 ที่มียอดเปิดตัว 3 วัน 90.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว “สไปเดอร์แมน โน เวย์ โฮม” ยังลุ้นเป็น 1 ใน 10 ภาพยนตร์ที่ทำยอดเปิดตัวสูงสุดตลอดกาลอีกด้วย ในฐานะ 1 ใน 8 เรื่องที่ทำยอดขายบัตรสุดสัปดาห์แรกเกิน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

และแม้จะไม่สามารถไปถึงยอดสูงสุดตลอดกาลของ “อเวนเจอร์ส เผด็จศึก” ที่ 357.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่มีลุ้นชนะเบอร์ 2 และ 3 อย่าง “อเวนเจอร์ส มหาสงครามล้างจักรวาล” และ “สตาร์ วอร์ส : อุบัติการณ์แห่งพลัง” ที่มียอดเปิดตัว 257.6 ล้าน และ 247.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับได้

ทั้งนี้หลายฝ่ายเชื่อว่าปรากฏการณ์นี้เป็นผลจากผู้ชมจำนวนมากต้องการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้พ้นจากการถูกสปอยล์บนโซเชียลมีเดีย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งอเวนเจอร์สเผด็จศึก เข้าฉายเมื่อปี 2562 ผสมกับแรงสนับสนุนของแฟนคลับที่เหนียวแน่นเป็นพิเศษ และการทุ่มงบฯกระตุ้นของโรงหนังเอง เช่น เครือโรงหนังเอเอ็มซีร่วมกับโซนี่แจก NFC โทเค็นให้กับสมาชิกที่จองบัตรรอบพิเศษวันที่ 16 ธ.ค.ล่วงหน้า

นำไปสู่เหตุการณ์รุมจองบัตรล่วงหน้าจนเว็บไซต์หลายแห่งในสหรัฐ อาทิ อะตอมทิกเก็ตส์, แฟนดันโก และมูฟวี่ทิกเก็ตดอตคอม รวมไปถึงเว็บไซต์ของโรงหนัง ทั้งเอเอ็มซี, ซีเนมาร์ก และรีกัลล่มไปตาม ๆ กัน เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา และมีความเป็นไปได้สูงที่หลังจากนี้ผู้ชมจำนวนไม่น้อยจะซื้อบัตรเพื่อดูซ้ำมากกว่า 1 รอบ ช่วยให้ยอดขายบัตรพุ่งต่อเนื่องไปอีกหลายสัปดาห์

“ชอน รอบบิ้น” ทิ้งท้ายว่า เหตุการณ์นี้จะต้องถูกจดจำในวงการภาพยนตร์และธุรกิจโรงหนังไปอีกนานในด้านความสำเร็จของสตูดิโอมาร์เวล สไปเดอร์แมน และการตัดสินใจใช้กลยุทธ์ฉายในโรงหนังเพียงอย่างเดียวของโซนี่