รีเทลอังกฤษ รับศึกคริสต์มาส ฝ่ามรสุมค่าเงินลด-กำลังซื้อหด

คอลัมน์ Market Move

แม้จะผ่านพ้นช่วงเทศกาลช็อปปิ้งต่อเนื่องแบล็กฟรายเดย์-ไซเบอร์มันเดย์มาได้ไม่กี่วัน แต่บรรดาผู้ค้าปลีกบนเกาะอังกฤษ โดยเฉพาะกลุ่มแฟชั่นมีเวลาฉลองยอดขายที่ได้มาไม่นานนัก เนื่องจากกระแสช็อปปิ้งช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังจะถึงนี้อาจไม่สดใส

โดยบริษัทวิจัยโกลบอลดาต้าชี้ว่า ปัจจัยลบที่เป็นควันหลงจากเบร็กซิต ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินปอนด์ตกต่ำทำให้สินค้าแพงขึ้น สวนทางกับเงินเฟ้อและเงินเดือนที่ทรงตัว จะทำให้เซ็กเมนต์สินค้าฟุ่มเฟือยอย่างแฟชั่นลำบากเป็นพิเศษ เพราะอยู่ในอันดับแรก ๆ ที่ผู้บริโภคจะตัดออกจากรายการช็อปปิ้ง ขณะเดียวกันยังมีอีคอมเมิร์ซมาแย่งเม็ดเงินอีกทางหนึ่ง โดยอาจทำให้ยอดขายด้านจำนวนลดลงประมาณ 0.1%

เรื่องนี้จะทำให้บรรดาผู้เล่นต้องหันมาเน้นการสร้างประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบจัดเต็ม ทั้งแจกของพรีเมี่ยม อาหารการกิน และความบันเทิง หวังจูงใจให้นักช็อปเข้ามาที่ร้านแทนช็อปออนไลน์

สำนักข่าว “ซีเอ็นบีซี” รายงานว่า ค้าปลีกแฟชั่นบนเกาะอังกฤษต่างเร่งเตรียมรับมือการแข่งขันช่วงไฮซีซั่น โดยห้าง “แฮร์รอดส์” เน้นจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริสต์มาส อาทิ กิจกรรมล่าของขวัญ “คริสต์มาส ฮันต์” สำหรับเด็ก ๆ ส่วนกลุ่มผู้ใหญ่มีการสาธิตทำอาหารเมนูยอดนิยมช่วงส่งท้ายปี รวมถึงเสริมบรรยากาศด้วยการแสดงดนตรีสดเพลงคริสต์มาสแคโรล และต้นคริสต์มาสจากฝีมือดีไซน์ของดอลเช่ แอนด์ กาบาน่า อีกด้วย

“มิเชล วอร์ด” ผู้อำนวยการของห้างแฮร์รอดส์ อธิบายว่า ช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสถือเป็นนาทีทองสำหรับวงการห้างสรรพสินค้า ดังนั้นจึงต้องตอกย้ำด้านการบริการซึ่งเป็นจุดแข็งของแฮร์รอดส์มาอย่างยาวนาน เพื่อสร้างจุดแตกต่างจากอีคอมเมิร์ซ พร้อมความประทับใจให้กับลูกค้าทุกรายรวมถึงกระตุ้นการบอกต่อ

ด้านห้างสรรพสินค้า “เดเบนแฮมส์” ใช้กลยุทธ์สร้างบรรยากาศเช่นกัน แต่เป็นบรรยากาศสไตล์เทพนิยายโดยเริ่มจากทุ่มเงินหลายล้านปอนด์ลอนช์แคมเปญสื่อสารครบวงจร ทั้งโรงภาพยนตร์, กิฟต์การ์ด, ถุงใส่สินค้า, จุดถ่ายเซลฟี, ของพรีเมี่ยมและอื่น ๆ ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.ในธีมซินเดอเรลล่าเล่าเรื่องของคู่หนุ่มสาวที่พยายามตามหากันหลังจากพบกันโดยบังเอิญ

“จากการสำรวจความคิดเห็นพบว่า ลูกค้าต้องการความบันเทิงจากการเดินห้างช่วงคริสต์มาส เราจึงสร้างแคมเปญนี้ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์” ริชาร์ด คริสต์โตโฟลิ เอ็มดีด้านการตลาดของเดเบนแฮมส์กล่าว

ขณะเดียวกัน “จอห์น ลูวิส” เลือกจับมือพันธมิตรจากหลายธุรกิจ จัดกิจกรรมแบบเปิดให้ลูกค้ามีส่วนร่วมทั้งชม-ชิม-ช็อป อย่างกิจกรรมผสมค็อกเทลในแบบของตนเอง และกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่ง “ปีเตอร์ครอส” ผู้อำนวยการฝ่ายคัสตอมเมอร์เอ็กซ์พีเรียนซ์ของจอห์น ลูวิส ยืนยันหนักแน่นว่า แคมเปญนี้เป็นศูนย์รวมประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบอินเตอร์แอ็กทีฟที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อสื่อว่านอกจากแหล่งช็อปปิ้งแล้ว จอห์น ลูวิส ยังเป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจ และพักผ่อนหย่อนใจแบบที่หาไม่ได้จากสถานที่อื่น


เรียกได้ว่าค้าปลีกรายใหญ่บนเกาะอังกฤษได้ออกมาเคลื่อนไหวแบบจัดเต็มกันแล้ว หลังจากนี้ต้องรอดูว่ากลยุทธ์ที่แต่ละรายทุ่มทั้งงบประมาณและไอเดียจัดขึ้นนี้จะดึงดูดนักช็อปได้มากน้อยแค่ไหน และสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสสร้างเม็ดเงินในช่วงสินค้าขึ้นราคาได้หรือไม่