คอลัมน์ Market-think โดย สรกล อดุลยานนท์
คลิปการบรรยายของ “ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ” แห่ง “ไทยซัมมิท โอโตพาร์ทฯ” ที่พูดในงานเสวนาของ “ประชาชาติธุรกิจ” เมื่อวันก่อนเป็นที่ฮือฮาและมีการแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
วันนั้นคุณชนาพรรณพูดชัดเจนว่ารถยนต์ไฟฟ้าต้องมาแน่นอนและผลสะเทือนที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง
วันนั้น เธอโชว์แผนผังต่าง ๆ มากมายบนจอ
มีอยู่ภาพหนึ่งที่ผมจำได้ คือ ภาพของเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของแต่ละค่ายรถยนต์
บางยี่ห้อก็ตั้งเป้าหมายปี 2020 บางค่าย 2025 และบางรายก็เป็นแผนระยะยาวถึง 2030
คุณชนาพรรณสรุปว่าถ้าทุกบริษัทรถยนต์ตั้งเป้าขนาดนี้ เงินลงทุนจะมหาศาลแค่ไหน
“แล้วแบบนี้รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่มาได้อย่างไร”
แต่วันก่อนผมอ่านบทสัมภาษณ์ของ “ทาเกชิ อุชิยานาดะ” ประธานโตโยต้าใหญ่ หรือที่คนเรียกเขาว่า “มิสเตอร์พริอุส”
เพราะเป็นคนผลักดันรถยนต์โตโยต้า พริอุส ที่เป็นระบบไฮบริดมาโดยตลอด
เขามองสวนทางครับ
เขาไม่เชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมาเร็ว
“ทาเกชิ อุชิยานาดะ” บอกว่าปัจจุบันโตโยต้าขายรถยนต์ได้ 9 ล้านคันต่อปี
เป็นรถยนต์ไฮบริด 1.4 ล้านคันหรือ 15%
“ไฮบริด” เป็นระบบที่ผสมผสานระหว่างการใช้แบตเตอรี่กับน้ำมันที่ “โตโยต้า” ภูมิใจมาก
“เราใช้เวลาตั้ง 20 ปีกว่าจะมาถึงจุดนี้”
20 ปี ไฮบริดยังได้แค่ 15%
ดังนั้น เขาจึงมองว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่รถยนต์ไฟฟ้าจะครองตลาดได้ถึง 30% ภายในปี 2030
หรือ 13 ปีนับจากนี้
เรื่องนี้น่าตกใจมากครับ
เพราะเหมือนกับว่า “โตโยต้า” คิดเปรียบเทียบแบบบัญญัติไตรยางค์20 ปี ได้ 15%13 ปี จะได้ 30% ได้อย่างไร
ฟังแล้วตกใจมาก
ใครที่ติดตาม “ความเปลี่ยนแปลง” ที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมาจะพบว่าเส้นกราฟของ “สิ่งใหม่” ที่ทำลายล้าง “สิ่งเก่า”
ไม่ใช่เส้นกราฟแบบเดิมแล้วครับ
มันไม่ได้ค่อย ๆ ไต่ระดับในอัตราเร่งแบบเดิม
แต่เป็นแบบเอ็กซ์โพเนนเชียลชันเร็วมาก
ตอนนี้ประเทศต่าง ๆ ก็ตั้งเป้ากันแล้วว่าจะใช้เวลากี่ปีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ค่ายรถยนต์อื่น ๆ ก็ตั้งเป้าเหมือนกัน
ทุกคนเชื่อเหมือนกันหมด
แต่ “โตโยต้า” ไม่เชื่อ
ผมไม่แน่ใจว่าเป็นกลยุทธ์สับขาหลอก
แกล้งบอกว่าไม่เชื่อ
จริง ๆ แล้วซุ่มอยู่
หรือ “ทาเกชิ อุชิยานาดะ” เสียดาย
ระบบไฮบริดที่ “โตโยต้า” คิดค้นขึ้นมาจริง ๆ
และอยากขายแบบเดิมไปนาน ๆ
เขาบอกว่าถ้ารถยนต์ไฟฟ้ามาเร็วไป ผู้ผลิตรถยนต์จะเจ๊งกันหลายราย ไม่เว้นแม้แต่แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้า
ประเด็นนี้น่าสนใจครับ
เหมือนเป็นการสะกิดเพื่อน ๆ ในวงการรถยนต์ว่าอย่ารีบ อย่ารีบ
เพราะถ้ายักษ์ใหญ่รถยนต์ไม่ผลิตรถไฟฟ้าก็ไม่เกิด
ไม่แปลกที่ภาพที่คุณชนาพรรณโชว์บนเวทีว่ารถยนต์ค่ายไหนตั้งเป้าเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าไว้เท่าไร ปีไหน
ไม่มี “โตโยต้า” ครับ
น่าสนใจนะครับว่ามุมคิดของ “ทาเกชิ” จะถูกต้องหรือไม่
ถ้าถูก “โตโยต้า” กินยาว
แต่ในมุมของคนที่เชื่อในวิสัยทัศน์ของ “อีลอน มัสก์”
เขาจะมองว่าวิธีคิดของ “ทาเกชิ” เป็นมุมมองของ “เจ้าตลาด”
ไม่อยากให้ “สิ่งใหม่” เข้ามา
ไม่ใช่มุมของผู้บริโภค
และที่สำคัญเขาลืมไปว่ารถไฟฟ้าที่เป็นกระแสของโลกในวันนี้ไม่ได้เกิดจากค่ายรถยนต์ด้วยกัน
แต่เป็นฝีมือของ “ผู้มาใหม่” ที่ไม่เคยทำรถยนต์มาก่อน
อย่าง “เทสลา” ของ “อีลอน มัสก์”
หรือบริษัทรถยนต์หน้าใหม่ในเมืองจีน
โลกธุรกิจวันนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วครับ
เรื่องราวของ “โกดัก” และ “โนเกีย”
ยังเป็นตำนานธุรกิจที่คลาสสิกจนถึงทุกวันนี้
การข้ามสายพันธุ์ทางธุรกิจเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก
ถ้ารายเก่าไม่ทำ รายใหม่มาแน่นอน