ติด โอไมครอน เพิ่ม 3.6 เท่า สธ. จ่อยกระดับคุมโควิดหลังปีใหม่

สธ.เผยผู้ติดเชื้อโอไมครอนเพิ่ม 3.6 เท่า จ่อยกระดับมาตรการคุมโควิดหลังปีใหม่ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนฉีดวัคซีน เพิ่มความปลอดภัย ลดเสี่ยงติดเชื้อ

วันที่ 29 ธันวาคม 2564 นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยฉีดวัคซีนป้องกันโควิดทะลุ 103 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็ม 1 ราว 51 ล้านราย เข็มที่ 2 จำนวน 45 ล้านราย โดยเฉพาะเข็มที่ 3 จำนวน 6.5 ล้านโดส มีสัดส่วนสูงถึง 9% จากเดิม 7% ขณะที่กลุ่มที่น่ากังวลคือกลุ่มที่ยังไม่มารับวัคซีน ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 10% ของจำนวนประชากร ดังนั้น จึงอยากขอให้มารับวัคซีนให้ครบ เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงติดเชื้อ

สธ. เปิดชื่อ 33 จังหวัด โอไมครอนบุก กทม.-กาฬสินธุ์-ภูเก็ต สูงสุด
สธ.เผยไทยพบผู้ป่วยโอไมครอนแล้ว 739 ราย มาจากต่างประเทศ 488 คน

ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกในวันนี้ (29 ธ.ค.) พบผู้ติดเชื้อใหม่ทะลุ 1 ล้านราย โดยการระบาดใหญ่ยังอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีการติดราว 2 แสนราย รองลงมาเป็นสหราชอาณาจักรอีก 1.2 แสนราย ขณะที่ภาพรวมยุโรปยังมีการติดเชื้อสูงเช่นเดียวกัน

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าอัตราการเสียชีวิตจากโควิดเริ่มลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากราว 2% เหลือ 1.9% โดยมีปัจจัยสำคัญโอไมครอนไม่ค่อยมีความรุนแรง และการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรที่มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การพบการระบาดของโอไมครอนมากขึ้นในระดับโลก ส่งผลให้ไทยย่อมต้องพบโอไมครอนมากขึ้นตามไปเช่นเดียวกัน ดังนั้น ศบค. จึงมีการชะลอการเข้าประเทศรูปแบบ Test and Go กลุ่มที่ยังอยู่ในประเทศไทยจึงถือว่าเป็นกลุ่มตกค้าง ขณะเดียวกันประเทศไทยได้เพิ่มมาตรการการตรวจโควิดด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง จากเดิม 1 ครั้ง ทำให้พบการติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มขึ้นตามมาจาก 0.08% เป็น 0.29% มากขึ้นถึง 3.6 เท่า

จากการจำลองสถานการณ์ คาดหมายว่า ปีใหม่ที่มีการเดินทางและกิจกรรมมากขึ้น ก็น่าจะมีแนวโน้มการแพร่ระบาดของเชื้อโอมิครอนมากขึ้น แต่เราพยายามลดให้น้อยที่สุด โดยต้องขอความร่วมมือจากคนไทยทุกคน ซึ่งหลังปีใหม่คงต้องมีมาตรการต่าง ๆ เสริมออกมา ซึ่งจะมีการแจ้งให้ประชาชนรับทราบเป็นระยะ ๆ

ขณะที่การเตือนภัยในปัจจุบันอยู่ในระดับ 3 หรือกลาง ๆ ทาง สธ. จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัว ดังนี้

1.ประชาชนทุกคนงดไปสถานที่เสี่ยง เช่น สถานบันเทิง สถานที่ระบบปิด และแออัด
2.กลุ่มเสี่ยง 608 และผู้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ เลี่ยงร่วมกิจกรรมรวมกลุ่มจำนวนมาก และเลี่ยงเดินทางโดยรถขนส่งสาธารณะทุกประเภท รวมไปถึงงดเดินทางไปต่างประเทศ
3.ประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง เดินทางเข้าประเทศไทยต้องกักตัว


ขณะที่หากมีการยกระดับการเตือนภัยในระดับสูงสุด หรือระดับ 5 จะเพิ่มเลเวลความเข้มข้นขึ้น เช่น ประชาชนทุกคนงดออกจากบ้าน งดไปต่างประเทศ เป็นต้น