เซ็นกรุ๊ปไม่หวั่นโอไมครอน บุกหนักแฟรนไชส์ปลุกยอด

zen

“เซ็น คอร์ปอเรชั่น” ไม่หวั่นโอไมครอน เปิดเกมรุกปี’65 นำทัพอาหารญี่ปุ่นปิ้งย่าง อากะ-อาหารตามสั่ง เขียง ลุยขายแฟรนไชส์ ปูพรมต่างจังหวัด พร้อมส่งน้ำปลาร้ากัญชา ปูพรมช่องทางรีเทล ย้ำรีวิวแผนทุก 3 เดือนรับมือสถานการณ์เสี่ยง-เข้มบริหารต้นทุน

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของแบรนด์ อาทิ ร้านอาหารญี่ปุ่น เซ็น อากะ ร้านอาหารญี่ปุ่น ปิ้งย่าง, มูฉะข้าวหน้าล้น, ออน เดอะ เทเบิล อาหารสไตล์ฟิวชั่น, อาหารตามสั่ง เขียง ฯลฯ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอไมครอนเข้ามาแพร่ระบาดในไทย

ทำให้ทุก ๆ ธุรกิจติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะในแง่ของจิตวิทยาผู้คนเริ่มมีความรู้สึกกังวลและตื่นกลัวกับจำนวนผู้ติดเชื้อ ประกอบกับหลาย ๆ ประเทศเริ่มมีการล็อกดาวน์ ไม่อนุญาตให้สายการบินเข้าประเทศ สำหรับในไทยหากเกิดกรณีการระบาดคล้ายกับสายพันธุ์เดลต้า มีการติดง่าย ไปถึงขั้นมีอาการรุนแรง อาจกระทบโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และรอดูว่าภาครัฐจะบริหารจัดการอย่างไร เพราะหากเกิดล็อกดาวน์อีกรอบอาจทำให้ธุรกิจและสภาพเศรษฐกิจหยุดชะงักและฟื้นตัวยาก

อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 ผู้ประกอบการยังต้องปรับตัวใช้ชีวิตอยู่กับโควิด ต้องบริหารความเสี่ยงให้ได้มากสุด และนำประสบการณ์ที่ผ่านมากลับมาใช้ เพราะหากมีการล็อกดาวน์ปิดศูนย์การค้า ธุรกิจร้านอาหารได้หันไปให้ความสำคัญกับสาขานอกศูนย์มากขึ้น แต่รายได้ที่อยู่นอกศูนย์ไม่สามารถมาคัฟเวอร์ร้านที่อยู่ในศูนย์ได้ ดังนั้นต้องอาศัยการควบคุมค่าใช้จ่าย บริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อประคองธุรกิจในที่เหตุการณ์ไม่แน่นอน

เช่นเดียวกับเซ็น คอร์ปอเรชั่น มีการปรับตัวรับมือมาตั้งแต่โควิดระบาดระลอก 3 เป็นต้นมา จากธุรกิจที่เน้นให้บริการร้านอาหารแบบนั่งทานแบบฟูลเซอร์วิส ปัจจุบันได้ขยายธุรกิจให้หลากหลาย ประกอบด้วย ธุรกิจแฟรนไชส์, ออมนิแชนเนล, อีคอมเมิร์ช และธุรกิจรีเทล โดยพอร์ตรายได้จากร้านอาหารอยู่ราว ๆ 70% ส่วนอีก 30% มาจากช่องทางดีลิเวอรี่และรีเทล หากเกิดการล็อกดาวน์คงหลีกเลี่ยงยาก แม้ออกมาโฟกัสสาขาคลาวด์คิตเช่นนอกศูนย์ แต่ในแง่ของรายได้ไม่สามารถชดเชยกันได้

นายบุญยงกล่าวว่า เบื้องต้นช่วงในไตรมาส 1/2565 ประเมินว่าบรรยากาศของธุรกิจร้านอาหารยังมีสัญญาณบวก เพราะยังได้รับอานิสงส์จากช่วงเฉลิมฉลองในเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 จากนั้นต้องมาประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ส่วนกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินงาน มีนโยบายที่จะรีวิวแผนและกลยุทธ์ทุก ๆ 3 เดือน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ไม่มีอะไรแน่นอน โดยเฉพาะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกันต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนขยายสาขาเพิ่ม โดยเฉพาะการขยายแฟรนไชส์ ร้านอาหารปิ้งย่าง อากะ และร้านอาหารตามสั่ง เขียง ที่เน้นเปิดในต่างจังหวัดมากขึ้น ในรูปแบบร้านไซซ์เล็ก จากเดิมที่ร้านจะมีขนาด 200-300 ตารางเมตร โดยการเปิดสาขาเพิ่มจะเน้นการ relocate จะมีมากขึ้น หาจุดขายที่คล่องตัวและไม่กระจุกอยู่ในศูนย์การค้า เพื่อให้สอดคล้องกับกลุยทธ์ในการขยายสาขา จากนี้ต้องเลือกทำเลเป็นหลัก ใช้พื้นที่ไม่ใหญ่มาก ควบคู่กับการรีโนเวตร้านให้ทันสมัย ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย

จากนี้จะเห็นร้านอาหารกลุ่มเซ็นฯในต่างจังหวัดมากขึ้น แต่คอนเซ็ปต์ร้านค่อนข้างแตกต่างกับสาขาในกรุงเทพฯ เนื่องจากตลาดต่างจังหวัดกำลังซื้อเริ่มค่อย ๆ ฟื้น ทำให้ร้านอาหารกำหนดราคาสูงไม่ได้ และการพัฒนาเมนูใหม่ทั้งกลุ่มบุฟเฟต์และ A La Carte ต้องอาศัยวิเคราะห์จากกำลังซื้อและพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นตัวตั้ง ส่วนบริษัทหากนำแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นอากะไปเปิด คงไม่ได้ขายในราคา 500-700 บาท ต้องปรับราคาที่มีข้อจำกัดไม่มาก ให้ลูกค้าเข้าถึงได้ และการลงทุนต้องไม่สูงมาก ถึงจะประสบความสำเร็จ

รวมไปถึงการเพิ่มน้ำหนักในเมนูที่มีส่วนผสมของกัญชา ที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัวเมนูออกมารับกระแสกัญชา แต่เมื่อเกิดการล็อกดาวน์ร้านอาหารต้องปิด จึงไม่สามารถ communicate ได้ จึงหันไปพัฒนาน้ำปลาร้ากัญชา ภายใต้แบรนด์ลาวญวนตำมั่ว วางจำหน่ายผ่านช่องทางรีเทล และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ปี’65 บริษัทยังต้องรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะวัตถุดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศ จากปัจจัยในเรื่องของราคาที่เพิ่มขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงค่าระวางสินค้า (freight) สิ่งที่ต้องบริหารเบื้องต้นคือเรื่องวอลุ่ม ด้วยการพยายาม integrae แบรนด์ต่าง ๆ ให้ใช้วัตถุดิบที่มาจากแหล่งเดียวกัน และอาจจะต้องไป sourcing จากซัพพลายเออร์หลาย ๆ ราย

รวมไปถึงปัญหาแรงงานขาดแคลนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็จะต้องหาอินเซนทีฟเข้าจูงใจ รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วย และจากปัญหาต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องมีการวางแผนการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ ใหม่ เพราะหากจัดโปรโมชั่นถี่มากจะกระทบต้นทุน และอาจจะต้องหันไปเน้นการสร้างประสบการณ์ หรือเอ็กซ์พีเรียนซ์ในการทานมากขึ้น