“เอ็นเอสแอลฟู้ด” ปั้น 4 ธุรกิจ เพิ่มรายได้บาลานซ์พอร์ต

เอ็นเอสแอลฟู้ด เร่งบาลานซ์พอร์ตรายได้ โฟกัส 4 ขาธุรกิจทั้งบิสกิต อาหารพร้อมทาน ฟู้ดเซอร์วิส จัดจำหน่าย เจาะตลาดใน-นอกประเทศ หลังโควิดกระทบรายได้เบเกอรี่ต่อเนื่อง 2 ปี ลุยพาเหรดทัพสินค้าใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 1 พร้อมรัดเข็มขัดแน่นรับมือต้นทุนพุ่ง ก่อนวางเป้ารายได้ปี’65 เติบโต 28%

นายสมชาย อัศวปิยานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเบเกอรี่ อาทิ ปังไท เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงทิศทางในปี 2565 ว่า การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับธุรกิจของบริษัททำให้ผลประกอบการไตรมาส 3 ต่ำกว่าเป้า โดยเฉพาะกลุ่มเบเกอรี่-อาหารรองท้องที่ส่งให้กับเชนร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นรายได้หลักสัดส่วนกว่า 90% ของพอร์ต

แม้ไตรมาส 4 สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้ผลประกอบการรวมของปี 2564 มีแนวโน้มกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2563 แต่คาดว่ายังต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 1 ปี กว่านักท่องเที่ยวจีนที่เป็นหนึ่งในฐานลูกค้าหลักจะกลับเข้ามาและเข้าสู่ภาวะปกติ

ทำให้ในปี 2565 นี้ บริษัทตัดสินใจมุ่งเน้นเพิ่มรายได้จากธุรกิจรอง 4 ด้าน ทั้งฟู้ดเซอร์วิส หรือการจัดหาวัตถุดิบ อาทิ อาหารทะเล-เนื้อวัว ให้ร้านอาหารต่าง ๆ, สินค้าแบรนด์ NSL อาทิ บิสกิตปังไท, เนเชอรัล ไบทส์, บัตเตอร์ฟิน และอาหารพร้อมทาน รวมถึงการเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้า พร้อมกับเดินหน้าสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์สินค้าในพอร์ต

เพื่อบาลานซ์พอร์ตรายได้ลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยวางเป้าระยะ 5 ปี ให้สัดส่วนรายได้จากการเป็นซัพพลายเออร์เบเกอรี่ให้เซเว่นอีเลฟเว่นอยู่ที่ 70% และ 4 ธุรกิจรองมีรายได้รวมกัน 30% จากปัจจุบันรายได้จากการเป็นซัพพลายเออร์นั้นสูงกว่า 90%

สอดคล้องกับรายงานผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรกทั้ง 4 ธุรกิจแม้จะยังสร้างรายได้ไม่มาก แต่มีการเติบโตสูง อาทิ ฟู้ดเซอร์วิสเติบโต 35.3% เป็น 127.8 ล้านบาท ส่วนสินค้าแบรนด์ NSL และการจัดจำหน่าย เติบโต 40.4% เป็น 14.3 ล้านบาท

นายสมชายอธิบายว่า ตามแผนนี้ทำให้บริษัทเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่หลายประเภท เริ่มจากไตรมาส 1 กลุ่มธุรกิจแบรนด์ NSL จะเปิดตัวอาหารพร้อมทานหลายเมนูทั้งคาว-หวาน เช่น ข้าวเหนียวทุเรียน, ผัดกะเพรา, มัสมั่น ฯลฯ มีจุดขายที่สามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น เนื่องจากการบรรจุแบบปลอดเชื้อและดีไซน์แพ็กเกจ-โลโก้ที่สร้างการจดจำอย่าง “ไทยสตรีทฟู้ด” โดยจะทำตลาดทั้งส่งออกไปยังประเทศจีนผ่านตัวแทนจำหน่าย และวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมี่ยมในไทย ตามด้วยเครื่องดื่มแบบพร้อมดื่มที่มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ

ในขณะที่แบรนด์ปังไทจะมีสินค้าใหม่ประมาณ 10 รายการ มีไฮไลต์เป็นสินค้าบิสกิตที่ซื้อลิขสิทธิ์ตัวละครจากยักษ์บันเทิงดิสนีย์มาผลิต รวมถึงเปิดตัวขนมปังสอดไส้ต่าง ๆ และจะทยอยรุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย

ส่วนธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส จะเพิ่มสินค้าพร้อมปรุงและพร้อมทานอย่าง ซอสแช่แข็งไซซ์ใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ความสะดวก-ลดต้นทุนของผู้ประกอบการร้านอาหาร จากเดิมที่มีเพียงอาหารทะเล และเนื้อสัตว์

ไปในทิศทางเดียวกับธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าที่ขณะนี้มีสินค้าอยู่ในไปป์ไลน์เตรียมส่งเข้าวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดแล้ว รวมถึงเดินหน้าคัดเลือกสินค้าใหม่เพิ่มเติมจากผู้ผลิตทั้งในและนอกประเทศ อาศัยจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญในการผลิตอาหารเข้าช่วยพัฒนาการผลิตของคู่ค้า รวมถึงต่อยอดกับผู้ผลิตรายที่มีศักยภาพด้วยการเซ็นสัญญาสั่งโออีเอ็มสินค้ามาจำหน่ายในแบรนด์ NSL

“จากนี้เราพยายามหาพันธมิตรเพื่อสั่งโออีเอ็มสินค้าในแบรนด์ NSL เพราะช่วยให้สามารถขยายพอร์ตสินค้าให้หลากหลายได้เร็วกว่าการพัฒนาเองทั้งหมด และเอสเอ็มอีไทยหลายรายมีศักยภาพ”

พร้อมกันนี้ได้ปรับกลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุน เพื่อรับมือราคาวัตถุดิบทั้งแป้งสาลี และน้ำมันพืชที่ปรับตัวสูงขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบราคาจำหน่ายสินค้าในปัจจุบัน โดยอาศัยการสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้า ลดของเสียจากการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพของแรงงาน รวมถึงศึกษาการนำหุ่นยนต์มาใช้ในไลน์ผลิตเบเกอรี่

ขณะเดียวกันจะใช้ประโยชน์จากพอร์ตโฟลิโอธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าที่ใหญ่ขึ้นมาช่วยเฉลี่ยต้นทุนให้การขนส่งสินค้าแต่ละเที่ยวมีความคุ้มค่ามากขึ้น รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นปรับลด-เพิ่มรอบรถตามความเหมาะสม

นายสมชายทิ้งท้ายว่า การขยายพอร์ตธุรกิจ-รายได้นี้ทำให้บริษัทวางเป้ารายได้ปี 2565 ไว้ที่การเติบโต 28% จากปี 2564