รพ.จุฬารัตน์ กางแผนปี’65 เจาะลูกค้าอาหรับ-CLMV โกยรายได้

แฟ้มภาพ

รพ.จุฬารัตน์ รับเดินหน้าเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มประเทศตะวันออกกลาง-CLMV ชูจุดขายการบริการรักษารวดเร็ว-ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง รับดีมานด์ลูกค้าหลังเปิดประเทศ 

วันที่ 17 มกราคม 2565 นายสิริ ยุทกาศ ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์นานาชาติ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา ภาพรวมผู้ที่เข้ามาใช้บริการกลุ่มชาวต่างชาติในโรงพยาบาลเริ่มลดลง จากข้อจำกัดด้านการเดินทาง ส่งผลให้ทางโรงพยาบาลได้มีการปรับตัวด้วยการหันมาให้บริการปรึกษาทางการแพทย์ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า

ควบคู่กับการปรับกลยุทธ์เข้าร่วมเป็น Hospital Quarantine ให้กับคนต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามารักษาตัวในไทย หรือกลุ่ม Medical and Wellness Program ในการรักษาและพักฟื้น และเข้าร่วมเป็นโรงพยาบาลกักตัวทางเลือก Alternative Hospital Quarantine

แต่หลังจากเปิดประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มคนไข้ต่างประเทศทั้งคนไข้เก่าและคนไข้ใหม่ เริ่มติดต่อเข้ามาอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง และเพียง 1 เดือนแรกหลังการเปิดประเทศ โรงพยาบาลมีรายได้การให้บริการทางการแพทย์จากกลุ่มลูกค้าชาวตะวันออกกลาง และกลุ่ม CLMV ในสัดส่วนที่เพิ่มขี้น เป็นรายได้ที่กลับมาเกือบ 100% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดภาวะวิกฤตโควิด-19 นับเป็นนิมิตหมายที่ดี

โดยในไตรมาส 4/2564 จำนวนลูกค้ามีเพิ่มมากขึ้นและช่วยรักษาการขยายตัวของรายได้ที่มาจากคนไข้ชาวต่างชาติในภาพรวมไว้ได้

ส่งผลให้ในปี 2565 นี้ ทางโรงพยาบาลได้มีการประกาศแผนงานเพื่อรองรับแนวโน้มคนไข้ชาวต่างชาติซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มลูกค้าหลักของทางโรงพยาบาล หลังเริ่มกลับเข้ามาใช้บริการได้อีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อาทิ คูเวต กาตาร์ โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซาอุดีอาระเบีย และกลุ่มประเทศ CLMV

ไม่ว่าจะเป็นการ ชูหัวหอกหลักอย่าง ศูนย์การแพทย์นานาชาติ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ จัดแคมเปญและโปรโมชั่นในต้นปี สำหรับลูกค้าชาวต่างชาติรวมหลายแพ็กเกจ เช่น แพ็กเกจตรวจสุขภาพ Comprehensive Program ในราคา 9,000 บาท แพ็กเกจตรวจกระดูกและข้อ รวมทั้งระบบประสาทและสมองด้วย MRI ราคา 7,900 บาท และแพคเกจตรวจระบบทางเดินอาหาร พร้อมส่องกล้องกระเพาะอาหาร ราคา 12,000 บาท เพื่อหวังสร้างรายได้และดึงคนไข้เป้าหมายให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น

“ศูนย์การแพทย์นานาชาติ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ มีเป้าหมายขยายฐานลูกค้ากลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และกลุ่ม CLMV ลูกค้าหลักเพิ่มมากขึ้น โดยทางโรงพยาบาลได้จัดศูนย์ศูนย์บริการสำหรับชาวตะวันออกกลางและกลุ่ม CLMV ขึ้นโดยเฉพาะ

เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความสะดวกสบายและเกิดความพึงพอใจสูงสุด ผ่านเจ้าหน้าที่คนไทยที่มีประสบการณ์ รวมทั้งการให้บริการติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตแต่ละประเทศและหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศไทยอีกด้วย”

อย่างไรก็ดีในปีนี้ธุรกิจโรงพยาบาลยังคงได้รับปัจจัยเอื้อรายได้จากการรับตรวจโควิดชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยด้วยวิธี RT-PCR รวมไปถึงการอนุมัติเห็นชอบหลักการในการตรวจลงตราวีซาประเภทใหม่ เป็นวีซาเพื่อการรักษาพยาบาล หรือ Medical Treatment Visa เพื่อขับเคลื่อนตามนโยบายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub)

และรองรับนโยบายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นวีซ่า 1 ปี ออกให้กับชาวต่างชาติที่เดินทางมารักษาพยาบาลในประเทศไทยในระยะยาว รวมทั้งผู้ติดตามไม่เกิน 3 คน จะสร้างอานิสงส์เชิงบวกผลักดันธุรกิจโรงพยาบาลฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) พ.ศ. 2560 – 2569 อีกด้วย

“ธุรกิจกลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ แม้จะได้รับผลกระทบบ้างในระยะสั้น ๆ จากวิกฤตโควิด-19 แต่เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลายลง รัฐบาลเปิดประเทศ กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่หายไปก็เริ่มทยอยกลับมาด้วยความเชื่อมั่นในมาตรฐานคุณภาพการรักษาระดับสากล จึงเชื่อว่าธุรกิจโรงพยาบาลจะกลับมาเติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาว” นายสิริ กล่าวทิ้งท้าย