เดอะมอลล์ฯ แนะจับตา “เงินเฟ้อ-โรคระบาด” ฉุดมู้ดจับจ่ายตรุษจีน

“เดอะมอลล์” ชี้เทศกาลตรุษจีน ดันยอดจับจ่ายไตรมาสแรกส่งสัญญาณบวก แนะจับตาปัญหาเงินเฟ้อ-โรคระบาด กระทบปัจจัยบวก ทุ่ม 300 ล้านบาท อัด 3 บิ๊กอีเวนต์ กระตุ้นยอดจับจ่ายตรุษจีนดันเงินสะพัด 3,000 ล้าน

วันที่ 19 มกราคม 2565 นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แม้การระบาดของโอมิครอนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาจะส่งผลต่อกำลังซื้อสะดุดบ้างช่วงสัปดาห์แรกของปี (ม.ค.65)

ขณะเดียวกันภาพรวมการเติบโตจนถึงตอนนี้ก็เริ่มทรงตัวยังสามารถประคองไปเรื่อยๆ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในแคมเปญ ช้อปดีมีคืน ที่ผลักดันให้ลูกค้าเข้ามาใช้แคมเปญดังกล่าวผลักดันให้ยอดขายเติบโตเพิ่ม 30% ก็ถือเป็นปัจจัยบวกอันดีที่เข้ามาตั้งแต่ช่วงต้นปี

โดยคาดการณ์ว่าก่อนจบแคมเปญ 1 สัปดาห์น่าจะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตเพิ่มขึ้นได้ โดยในส่วนของไตรมาสแรกปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเรื่องเงินเฟ้อ และเรื่องโรคระบาด

“ขณะนี้ยอดจับจ่ายต่อบิลยังทรงตัว มีปัจจัยเรื่องโอมิครอนและเงินเฟ้อ ทำให้ประเมินสถานการณ์ต่อไปได้ยาก ขณะที่การขึ้นราคาอาหารในสินค้าบางประเภทก็ส่งผลกระทบบ้างเล็กน้อย แต่ขณะเดียวกันการที่มีมาตรการช้อปดีมีคืนก็ถือเป็นตัวกระตุ้นได้อย่างดี เบื้องต้นมองว่าหากภาครัฐสามารถอัดแคมเปญกระตุ้นได้ทุกไตรมาส หรือปีละ 2-3 ครั้งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นจากปกติ 30% จากมาตรการกระตุ้นต่างๆ”

ในส่วนของเดอะมอลล์กรุ๊ปช่วงไตรมาส 1 นี้ ได้เตรียมงบการตลาดราว 300 ล้านบาท (บวกลบ 25-30% อยู่ระหว่างการปรับสถานการณ์และดูแผนการจัดแคมเปญที่อาจจะต้องอิงกับสถานการณ์การระบาด) ในการผลักดัน 3 บิ๊กแคมเปญประจำไตรมาสแรก ได้แก่

ตรุษจีน วาเลนไทน์ และซัมเมอร์การปลุกยอดขายช่วงต้นปี ล่าสุดได้ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท เปิดตัว “THE MALL GROUP HAPPY CHINESE NEW YEAR 2022 : JOY LUCK LOVE” ระหว่างวันที่ 20 มกราคม – 20 กุมภาพันธ์ 2565ครั้งแรกของปรากฏการณ์ตรุษจีนบนโลกคู่ขนาน ที่ผสานความยิ่งใหญ่ของวัฒนธรรมประเพณีจีนบนโลกจริง เชื่อมกับโลกเสมือนจริงเมตาเวิร์สอย่างกลมกลืนไร้รอยต่อผ่าน 5 กิจกรรม : ขานความยิ่งใหญ่ อวยฤกษ์ชัย ครั้งแรกกับศาลเจ้าพ่อเสือลอยฟ้า ที่ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน และครั้งแรกในไทยศาลเจ้าพ่อเสือบนโลกเสมือนจริง TIGER SHRINE IN THE METAVERSE

พร้อมเสริมสิริมงคลด้วยฮู้ศาลเจ้าพ่อเสือ ในรูปแบบ NFT ครั้งแรกของประเทศไทย, ตื่นตากับโชว์มังกรเมฆาประทานพรในระบบ AUGMENTED REALITY 3D , ส่งต่อความเฮง โชคดีผ่านซองอั่งเปาขาลคบทรัพย์,การ์ดพยัคฆ์ขานสุข 3D และ M Card เซียมซีขานสุขครั้งแรกกับการแสดงโชว์ THE KING OF TIGER พยัคฆ์เมฆาเบิกนภา ทวยเทพประทานพร จากซุปตาร์ชื่อดัง, การแสดงเชิดสิงโตมังกร, การแสดงศิลปวัฒนธรรมจีน ตื่นตา ตื่นใจกับครั้งแรกของอภิมหาโชว์ ดิจิทัลกวนอิมพันมือ และกิจกรรมมากมาย“ขานความฟิน” กับอาหารมงคลจากภัตตาคาร-ร้านอาหารจีนระดับตำนานทั่วกรุงและร้านอาหารชื่อดังในศูนย์การค้ารวมกว่า 200 ร้านค้า 2,022 เมนู ของเสริมสิริมงคล สินค้าไลฟ์สไตล์นำโชคเสริมดวงมากมาย โดยคาดหวังเงินสะพัดช่วงแคมเปญราว 3,000 ล้านบาท

“พอมีเทศกาลตรุษจีนเข้ามา จะสามารถสร้างการเติบโตต่อไปได้ จากสัญญาณเรื่องของการจัดกิจกรรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ที่สามารถสนุกได้ทุกวันตลอดช่วงเทศกาล โดยประเมินว่าตรุษจีนปีนี้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เพราะการระบาดของโอมิครอน เชื่อว่าน่าจะสามารถควบคุมได้ แต่อย่างไรก็ดีปีนี้ห่วงเรื่องเงินเฟ้อ ที่อาจจะกระทบ รอแนวทางบริหารจัดการของทางภาครัฐอยู่”

ขณะที่ปัญหาราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น มีผลต่อการจับจ่ายช่วงตรุษจีนบ้าง ทำให้ต้องมีการจัดโปรและผนึกพาร์ตเนอร์ ในการช่วยผู้บริโภคและกระตุ้นการจับจ่าย แต่เชื่อว่าจะค่อยๆบรรเทา มีกระทบบ้างเล็กน้อยช่วงนี้ เพราะยังมีข่าวราคาหมู และโรคระบาด อาจจะส่งผลกระทบบ้าง

ซึ่งในส่วนของชุดไหว้มีปรับราคาบ้างเล็กน้อย แต่บริษัทก็ต้องยอมลดกำไรบางส่วนเพื่อซัพพอร์ตลูกค้า พยายามประคองในราคาที่ไม่ต่างจากเดิมมาก โดยในกูร์เมต์ฯมีปรับราคาบ้างล็กน้อย แต่ไม่ 100%

อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมาเดอะมอลล์มียอดขายกว่า 45,000 กว่าล้านบาท โดยวางเป้าหมายปิดยอดขายในปี 2565 ไว้ที่ราว 50,000 ล้านบาท ไตรมาสแรกเป้า 12,000-14,000 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา

“ปีที่ผ่านมาเรามีปิดไปสองเดือนกว่า และปิดเดอะมอลล์ท่าพระ ตัวเลขหายไป 1 สาขา ปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วเพราสถานการณ์เริ่มคลี่คลายขึ้น บวกกับสาขาท่าพระที่กลับมาเปิด (หลังจากรีโนเวต) ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยให้เติบโตได้ดี”