อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ฯ ผนึกแฟรนไชส์สะดวกซักไทยรุก เวียดนาม

อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ฯ ผนึกแฟรนไชส์สะดวกซักไทยรุกเวียดนาม เล็งลงทุนระดับพันล้านเพื่อขยายโรงงานผลิตเครื่องซัก-อบผ้าที่จังหวัดชลบุรีในปี 2566 เพื่อรับการเติบโตของไทย-เอเชีย

วันที่ 19 มกราคม 2565 นายสุกรี กีไร ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโสประจำภูมิภาคอินโดไชน่า บริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ซิสเต็ม แอลแอลซี ผู้ผลิตเครื่องซักและอบผ้าอุตสาหกรรมให้กับแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักหลายราย อาทิ อ๊อตเทริ, ลอนดรี้บาร์, วอชช เอ็กเพรส ฯลฯ กล่าวว่า ปี 2565 นี้ ตลาดร้านสะดวกซักยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง ทั้งด้านมูลค่าที่จะเพิ่มจาก 7 พันล้านบาทเป็น 1 หมื่นล้านบาท พร้อมจำนวนร้านทุกแบรนด์ทั่วประเทศเพิ่มจาก 2,400 แห่ง เป็น 3,500 แห่ง

โดยเป็นผลจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่กระตุ้นผู้บริโภคหันมาใช้บริการซัก-อบผ้าของร้านสะดวกซักเพื่อทำความสะอาด-ฆ่าเชื้อโรคในเครื่องนุ่งห่มเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าพฤติกรรมนี้จะกลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ที่ยังคงอยู่แม้การระบาดจะจบลงก็ตาม

ในขณะที่นักลงทุนสนใจธุรกิจร้านสะดวกซักมากขึ้นเพราะเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในช่วงการระบาดไม่มากนัก สะท้อนจากการติดต่อสั่งซื้อเครื่องที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโส บริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ฯ กล่าวต่อไปว่า เตรียมต่อยอดความสำเร็จด้วยการขยายฐานไปยังกลุ่มประเทศอินโดไชน่า เริ่มจากประเทศเวียดนามในปีนี้ ก่อนจะตามด้วยลาว กัมพูชาและเมียนมา

ด้วยการสนับสนุนให้แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักสัญชาติไทยเป็นหัวหอกบุกเบิกตลาดประเทศเวียดนาม ในหลายรูปแบบ อาทิ ตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างเจ้าของแฟรนไชส์ไทยกับดิสทริบิวเตอร์หรือผู้ประกอบการเวียดนาม หรือขายแฟรนไชส์ให้กับนักลงทุนในเวียดนาม เพื่ออาศัยโนว์ฮาวของผู้ประกอบการไทยกระตุ้นการเติบโตของตลาดเวียดนามซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่มีร้านสะดวกซักเพียง 20 แห่งเท่านั้น

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับเจ้าของแฟรนไชส์แต่ละราย ซึ่งหลายรายแสดงความสนใจคาดว่าจะสามารถเปิดการเจรจากับทางเวียดนามได้เร็ว ๆ นี้

ขณะเดียวกันเพื่อรับการขยายตัวของดีมานด์ทั้งในไทยและประเทศอื่น ๆ ในโซนเอเชีย บริษัทกำลังศึกษาแผนลงทุนขยายโรงงานที่จังหวัดชลบุรี เพื่อเพิ่มกำลังผลิตเครื่องซัก-อบผ้า โดยคาดว่าจะมีการลงทุนในปี 2566 ด้วยมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท

“ปัจจุบันไทยถือเป็นหนึ่งในฐานการผลิตหลักของบริษัท ด้วยการส่งสินค้าป้อนตลาดเอเชียยกเว้นจีนที่บริษัทมีโรงงานอยู่แล้ว รวมถึงส่งสินค้าบางส่วนไปยังสหรัฐอีกด้วย”

ขณะเดียวกันสำหรับในประเทศไทย จะมุ่งย้ำโพซิชั่นผู้นำตลาด และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 63% ในปัจจุบัน โดยนำเครื่องอบผ้ารุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่ม เริ่มจากรุ่น Tempest ซึ่งมีจุดขายเป็นระบบอินเวอร์เตอร์ในช่วงไตรมาสแรก ก่อนจะตามด้วยรุ่นที่มีฟังก์ชั่นชักและอบในเครื่องเดียวในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ร้านสะดวกซักได้ทุกรูปแบบ

พร้อมเสริมจุดแข็งด้านบริการหลังการขายและความเชื่อมั่นในแบรนด์ ด้วยการหนุนให้ดิสทริบิวเตอร์เปิดศูนย์บริการในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ควบคู่กับการทำตลาดสร้างการรับรู้แบรนด์อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ฯ และแบรนด์เครื่องซักผ้า อาทิ Speed Queen, Huebsch, IPSO และ primus ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

ทั้งนี้มั่นใจว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้ปี 2565 บริษัทมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทแน่นอน