สธ.เผย EU ไฟเขียว Thailand Digital Health Pass รับรองเดินทางเข้า 60 ประเทศ

นักท่องเที่ยว
แฟ้มภาพ Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP

สธ.ร่วม กต.-ดีอี ดัน Thailand Digital Health Pass ผ่านการรับรองระบบการตรวจสอบเอกสารรับรองเกี่ยวกับโควิด-19 จาก EU รองรับการเดินทางเข้าประเทศกว่า 60 ประเทศ พร้อมตรวจสอบและติดตามข้อมูลผู้เดินทางมาไทยได้

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงถึงการใช้ Digital Health Pass บนหมอพร้อม เพื่อการเดินทางในกลุ่มประเทศ EU ว่า ขณะนี้ประเทศไทยเปิดให้เดินทางเข้าประเทศผ่านระบบ Test & Go อีกครั้งตั้งแต่ 1 ก.พ.

รวมถึงยังมีการเข้าประเทศผ่านระบบแซนด์บอกซ์และระบบกักตัว จึงต้องมีการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง

อนุทิน ชาญวีรกูล
อนุทิน ชาญวีรกูล

โดยเมื่อ 21 ธ.ค. 2564 สหภาพยุโรป (EU) ได้มีมติยอมรับและขึ้นทะเบียนเอกสารรับรองเกี่ยวกับโควิด-19 ของประเทศไทย หรือ Thailand Digital Health Pass บนหมอพร้อม ให้มีความเท่าเทียมกับเอกสารรับรองของสหภาพยุโรป (EU Digital COVID Certificate : EU DCC)

ดังนั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยทุกคนจึงสามารถใช้เอกสารรับรองบน Thailand Digital Health Pass ของหมอพร้อม แสดงสถานะสุขภาพเกี่ยวกับโควิด-19 ก่อนเดินทางสู่ประเทศหรือดินแดนที่เข้าร่วมระบบการตรวจสอบเอกสารรับรองของสหภาพยุโรปนี้กว่า 60 ประเทศ/ดินแดน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ก.พ. 2565)

รวมถึงสามารถใช้แสดงข้อมูลก่อนเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในประเทศ/ดินแดนเหล่านั้นได้ด้วย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เปิดให้ประชาชนเริ่มทดสอบใช้งานระบบดังกล่าวได้แล้ว

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การเข้าร่วม EU DCC นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนที่ถือเอกสารรับรองของประเทศไทยแล้ว

ส่วนหนึ่งจะช่วยให้ สธ.สามารถติดตามและตรวจสอบสถานะเพื่อสุขภาพของนักเดินทางจากประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป และประเทศนอกกลุ่มสหภาพยุโรปที่ได้รับการขึ้นทะเบียน EU DCC ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ด้วย

โดยเจ้าหน้าที่ของไทย ร้านค้า/หน่วยงานต่าง ๆ สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวกับโควิด -19 ของนักเดินทางได้เช่นกัน เป็นการยกระดับระบบตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 ของประเทศไทย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมโรคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า เอกสารดิจิทัลเกี่ยวกับโควิด-19 ของ EU DCC ใน Thailand Digital Health Pass จะแสดงข้อมูลสำคัญ 2 ส่วน ได้แก่

1.ข้อมูลพื้นฐานจำเป็นในการยืนยันตัวตน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก อายุ สัญชาติ และหมายเลขหนังสือเดินทาง (ถ้ามี)

ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ในการเชื่อมโยงข้อมูลชื่อนามสกุลภาษาอังกฤษและหมายเลขหนังสือเดินทาง (passport number) ของผู้ที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศไทย

2.ข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 ประกอบด้วย

-ข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีอายุ 180 วัน นับจากวันที่รับเข็มล่าสุด
-ข้อมูลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR หรือ ATK เฉพาะรุ่นที่ EU รับรอง มีอายุ 7 วัน นับจากวันที่ตรวจล่าสุด
-ข้อมูลการหายป่วยจากโควิด-19 มีอายุ 180 วัน นับจากวันที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วย โดยแสดงในรูปแบบ QR Code ที่มีลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) กำกับ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งจะอ่านได้เฉพาะแอปพลิเคชั่นที่ถูกพัฒนาตามมาตรฐานของ EU เท่านั้น

นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กล่าวว่า การที่สหภาพยุโรปรับรอง Thailand Digital Health Pass ให้มีสถานะเทียบเท่า EU Digital COVID Certificate แสดงถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างไทยและยุโรป รวมถึงความสามารถ ความพร้อม และมาตรฐานด้านดิจิทัลของไทย

ทำให้ระบบของประเทศไทยเชื่อมโยงกับระบบเอกสารวัคซีน 60 ประเทศ ได้แก่ ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป 27 ประเทศ และประเทศนอกสหภาพยุโรปที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรอง 33 ประเทศ โดยไทยเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียนที่ได้รับการรับรองระบบนี้ อย่างไรก็ตาม การเดินทางเข้าประเทศต่าง ๆ จะมีความแตกต่างกันในเงื่อนไข ทั้งชนิดวัคซีนและชุดตรวจ ATK ที่องค์การยาแห่งสหภาพยุโรปให้การยอมรับ จึงขอให้ตรวจสอบเงื่อนไขก่อนเดินทางทุกครั้ง

นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒน์พันธชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ร่วมพัฒนาระบบหลังบ้านกับกระทรวงสาธารณสุข สำหรับออกเอกสารรับรองเกี่ยวกับโควิด-19 ตามมาตรฐานสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน

นับเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยที่ได้นำเทคโนโลยีทางดิจิทัลมาพัฒนาระบบเอกสารรับรอง เป็นการขับเคลื่อน Digital Transformation ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ช่วยพัฒนามาตรฐานของข้อมูลและยกระดับระบบข้อมูลของประเทศให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศในอนาคต

สำหรับระบบเอกสารรับรองเกี่ยวกับโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้น ดำเนินการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจากหน่วยบริการสุขภาพที่ประชาชนเข้ารับบริการ มีการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์กำกับในเอกสารรับรองทุกฉบับ โดยใช้เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานกุญแจสาธารณะ (Public Key Infrastructure หรือ PKI) เพื่อเข้ารหัสลับในการลงลายมือชื่อ สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงและป้องกันการปลอมแปลงได้ มีการจัดเก็บหลักฐานการออกเอกสารรับรองด้วยเทคโนโลยี Blockchain เพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA