“ไข่หวานบ้านซูชิ” ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ตอกย้ำจุดแข็งสูตรดั้งเดิม -ราคาเข้าถึงง่าย พร้อมลุยขยายแฟรนไชส์ 200 แห่ง เจาะลูกค้าทั่วประเทศ
วันที่ 25 มีนาคม 2565 นางสาวอมรา ไทยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไข่หวานบ้านซูชิ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ได้เริ่มเจรจาขอซื้อแบรนด์ไข่หวานบ้านซูชิ จากผู้บริหารเดิม คือ นางสาวปุณิกา ธรรมขันธ์ ตั้งแต่ปี 2563 ภายใต้บริษัท ที เอช เค โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- สงกรานต์ 2567 ทางด่วนฟรี มอเตอร์เวย์ฟรี สายไหนบ้าง ฟรีถึงวันไหน
ซึ่งถือเป็นบริษัทฯ ในเครือรับหน้าที่บริหารงาน โดยตั้งแต่ วันที่ 23 กันยายน 2563 ผู้บริหารเดิมได้ให้สิทธิ์ขาดในแบรนด์สินค้า เครื่องหมายทางการค้า ตลอดจนสูตรลับ สูตรซอส สูตรน้ำจิ้ม ตลอดจนแหล่งวัตถุดิบ พร้อมโอนมาให้ในการบริหารของ บริษัท ไข่หวานบ้านซูชิ (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งหมด โดยผู้บริหารที่ขายสิทธิ์เดิม จะไม่สามารถประกอบธุรกิจ บริการอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกันได้
ขณะเดียวกัน ร้านไข่หวานบ้านซูชิได้เริ่มบริหารงาน ผ่านคณะผู้บริหารชุดปัจจุบัน พร้อมต่อยอดจากมาตรฐานเดิม และขยับเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพอาหาร การขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยได้ย้ายศูนย์ในการฝึกอบรมจากเดิมที่เมืองทองธานีมาที่ศูนย์ใหญ่ครบวงจร ตรงไข่หวานบ้านซูชิเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา พร้อมเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2565 โดยตามสัญญาจากผู้บริหารเดิมให้ใช้ที่สาขาเมืองทองไปก่อน
สำหรับทิศทางการขยายธุรกิจต่อจากนี้ มุ่งเดินหน้าผลักดันแบรนด์ ไข่หวานบ้านซูชิ ให้เติบโต ทั้งแฟรนไชส์เดิมที่มีอยู่ 150 สาขา พร้อมกับการขยายแฟรนไชส์เพิ่ม ให้ได้ 200 สาขาภายในปี 2565 ในราคาเริ่มต้น 6 แสนบาท มีระยะคืนทุน 1-2 ปี รวมไปถึงการปรับแบรนด์ดิ้งให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น
ตั้งแต่การวางแผนการตลาด ให้สอดรับเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด-19 ควบคู่กับการเพิ่มน้ำหนักพัฒนาเมนูให้หลากหลาย ปัจจุบันมีเมนูกว่า 70 รายการ ในราคาเริ่มต้นที่ 10 บาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธุรกิจอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตขึ้น จากข้อมูลอ้างอิงขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น(เจโทร กรุงเทพฯ) ได้ทำการสำรวจร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยปี2564 แม้มีการระบาดของโควิด-19 ต่อเนื่องแต่จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นกลับเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวน 4,370 ร้าน เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบปี 2565 ที่มี 4,094 ร้าน โดยอยู่ในต่างจังหวัด 2,297 ร้าน เพิ่มขึ้น 15.5% จากปี 63 ที่มี 1,989 ร้าน และในกรุงเทพฯ 2,073 ร้าน ลดลง 1.5%