“ออร่า” เปิดศึกน้ำแร่ 3.8 พันล้าน ลงทุนโรงงานแห่งใหม่ชน “มิเนเร่-เพอร์ร่า”

“ออร่า” ลงทุนโรงงานน้ำแร่แห่งใหม่ เพิ่มกำลังการผลิตรับตลาดโตพุ่ง 3.8 พันล้าน เปิดศึกแลกหมัดชิงฐานคอนซูเมอร์ ซุ่มหาแหล่งน้ำเพชรบูรณ์ รับดีมานด์โตลิ่ว 15% ต่อปี “มิเนเร่” งัดนวัตกรรมแพ็กเกจจิ้ง เปิด บีบ ดื่ม ไซซ์ใหม่ เอาใจสายออกกำลังกาย ด้าน “เพอร์ร่า” รุกหนัก ส่งแคมเปญแจกไอโฟน-ทริปไอซ์แลนด์ กระตุ้นยาวถึงสิ้นปี

ความต้องการบริโภคน้ำแร่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ดึงดูดให้ผู้เล่นใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำแร่ช้างจากค่ายไทยเบฟ หรือเบียร์ช้าง และน้ำแร่อควาฟิน่าจากค่ายเป๊ปซี่ ในขณะที่ผู้เล่นปัจจุบันที่มีแต้มต่อทั้งช่องทาง แบรนดิ้ง การรับรู้ของผู้บริโภคก็ต้องพยายามรักษาพื้นที่ของตัวเองให้ดี และใช้แต้มต่อดังกล่าวสร้างการเติบโตใหม่ ๆ ให้ได้

โดยตัวเลขตลาดน้ำแร่ธรรมชาติพร้อมดื่มในปีที่ผ่านมา 2559 มีมูลค่าประมาณ 3.8 พันล้านบาท เติบโต 15% แบ่งเป็น มิเนเร่ 28% ออร่า 26% เพอร์ร่า 11% มองต์เฟลอ 11% อื่น ๆ 24%

“ออร่า” ผุดโรงงานใหม่เสริมทัพ

แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำแร่ออร่า ระบุว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเพื่อรับกับการเติบโตของยอดขายน้ำแร่ธรรมชาติออร่า และดีมานด์ของตลาดในภาพรวมที่เติบโตสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยกำลังการผลิตของเครื่องจักรที่มีในปัจจุบัน ที่โรงงานแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ สามารถผลิตได้ 120-130 ล้านขวดต่อปี เกือบเต็มกำลังการผลิต ทำให้บริษัทได้เตรียมหาแหล่งน้ำสำรองแห่งใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยคาดว่าจะสามารถขยายกำลังการผลิตได้ในช่วงปีหน้า และทำให้ทิปโก้มีกำลังการผลิตรวมกว่า 250-300 ล้านขวดต่อปี

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทิปโก้ได้เริ่มดำเนินการสร้างโรงงานผลิตน้ำแร่ออร่าแห่งใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีแหล่งน้ำธรรมชาติ และแหล่งน้ำแร่สำคัญหลายแห่ง อาทิ แม่น้ำป่าสัก ลุ่มน้ำเชิญ ลุ่มน้ำเข็ก ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำสายต่าง ๆ

จากการสอบถามไปยัง นายเอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ระบุกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่จริง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดอื่น ๆ ได้ในขณะนี้ โดยเหตุผลของการตั้งโรงงานใหม่ก็คือ การเพิ่มกำลังการผลิต รับกับยอดขายและความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยตลาดน้ำแร่ธรรมชาติพร้อมดื่มในภาพรวมมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว สูงกว่าแคทิกอรี่อื่น ๆ ในกลุ่มเครื่องดื่ม โดยในปีที่แล้วมีการเติบโตถึง 15% เช่นเดียวกับการเติบโตของยอดขายออร่า

รุกหนักตลาด “ดีลิเวอรี่”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากแพ็กไซซ์ของออร่า ที่มีให้เลือกถึง 4 ขนาด อาทิ 330 มล. 500 มล. 1.5 ลิตร และ 6 ลิตร เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลาย และช่องทางจัดจำหน่ายที่แตกต่างกันไป ทั้งในโมเดิร์นเทรด ตัวแทนจำหน่าย และดีลิเวอรี่ โดยเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้ทำแคมเปญเพื่อกระตุ้นช่องทางดีลิเวอรี่สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ครบ 3,000 บาท จะได้บริการจัดส่งฟรีถึงบ้าน ประกอบด้วย น้ำแร่ออร่าขนาด 330 มล./15 ขวด/แพ็ก ขนาด 550 มล./12 ขวด/แพ็ก ขนาด 1.5 ลิตร/6 ขวด/แพ็ก โดยทุกแพ็กมีราคาจำหน่ายเพียง 90 บาท

นอกจากนี้ ออร่ายังมีการรุกสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า ข้อมูลด้านสุขภาพผ่านสื่อออนไลน์ และโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำแบรนดิ้งและสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่

“มิเนเร่-เพอร์ร่า” บุกหนัก

รายงานจากบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำแร่ธรรมชาติมิเนเร่ ระบุว่า เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัว มิเนเร่ ขนาดใหม่ 750 มล. ซึ่งปริมาณที่เหมาะกับการบริโภคขณะออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมกับดีไซน์ขวดแบบใหม่ที่กระชับ จับถนัดมือ และเทคโนโลยีฝาขวดแบบ “แอ็กทีฟ แคป” หรือฝาล็อก ทำให้ผู้บริโภคสามารถเปิดขวดได้ง่ายขึ้น และบีบขวดเพื่อดื่ม รองรับไลฟ์สไตล์ที่แอ็กทีฟมากขึ้นของคนในปัจจุบัน

ขณะที่บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำแร่ธรรมชาติเพอร์ร่า รายงานว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี เพอร์ร่าได้กิจกรรมเพื่อกระตุ้นยอดขายและการรับรู้แบรนด์ ผ่านการแคมเปญแจกไอโฟน 8 และแพ็กเกจท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-สิ้นเดือนธันวาคม หลังจากที่ก่อนหน้านี้พยายามสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในตลาด ทั้งการใช้พรีเซ็นเตอร์ การคอลลาบอเรชั่นกับแฟชั่นดีไซเนอร์ ออกแบบลวดลายพิเศษบนฉลากของผลิตภัณฑ์ พร้อมกับรุกเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่องทางเทรดดิชันนอลเทรด


ทั้งนี้ ปัจจุบันตลาดน้ำแร่ธรรมชาติพร้อมดื่มมีมูลค่าประมาณ 3.8 พันล้านบาท มีมิเนเร่เป็นเจ้าตลาดด้วยสัดส่วน 28% ขณะที่ออร่ามีส่วนแบ่งตลาดเป็นเบอร์ 2 ของตลาดด้วยสัดส่วน 26%