“หุ่นยนต์ดูดฝุ่น”บูมรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

“หุ่นยนต์ดูดฝุ่น” มาแรง ตัวเลขยอดโตเท่าตัว รับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อยู่คอนโดฯงานหนักเวลาน้อย แบรนด์ไทย-เทศ ดาหน้าบุก ส่วนแบรนด์จีนงัดราคาเจาะตลาดล่าง แค่ 1,500-3,000 ก็ซื้อได้ ด้านอินเตอร์แบรนด์อัดโปรโมชั่นชิงยอดท้ายปี “เพาเวอร์มอลล์-เพาเวอร์บาย” มั่นใจยอดโตเป็นดับเบิลดิจิตต่อเนื่อง เร่งขยายพื้นที่ขายรองรับเทรนด์

แม้ “หุ่นยนต์ดูดฝุ่น” จะมีในตลาดมา 5-6 ปีแล้ว แต่ยังเป็นตลาดเฉพาะเนื่องจากราคาที่ยังสูง แต่ล่าสุดดีมานด์เริ่มโตแบบก้าวกระโดดจากผู้เล่นใหม่จำนวนมากที่เข้ามาเป็นทางเลือกในตลาด ทั้งจากแบรนด์ไทย จีน เกาหลี และยุโรป ทำให้ราคาจับต้องได้ตั้งแต่ 3,000 ยัน 30,000 บาท สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่และกลุ่มที่พักอาศัยในคอนโดฯที่ไม่มีเวลา ทำให้ “โรบอตดูดฝุ่น” กลายเป็น 1 ในดาวเด่นที่จะผลักดันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัว เช่นเดียวกับร้านค้าที่จัดพื้นที่รับเทรนด์ฮอตฮิต

ตลาดโตเท่าตัว

นางสาวศศิธร กู้พัฒนากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมาตลาดโรบอตดูดฝุ่นมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีสัดส่วน 10-15% ของตลาดเครื่องดูดฝุ่น และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 20% ในปี 2561 ด้วยจุดขายด้านความสะดวก เนื่องจากสามารถทำงานได้อัตโนมัติ กำหนดเวลาทำงาน-ชาร์จไฟ และยังตั้งโปรแกรมผ่านสมาร์ทโฟนได้ ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์สนใจเรื่องเทคโนโลยีและต้องการความสะดวกสบาย และเชื่อว่าตลาดจะรักษาโมเมนตัมการเติบโตนี้ต่อไปในอนาคต

การเติบโตที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มีผู้เล่นและสินค้าหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะระดับแมสซึ่งมีแบรนด์จีนราคาประมาณ 3,000 บาทขึ้นไปเข้ามาเป็นตัวเลือก จากเดิมที่มีเฉพาะอินเตอร์แบรนด์ราคา 15,000-39,990 บาท ขณะเดียวกันก็มีหุ่นยนต์หลากหลายประเภทตามลักษณะการใช้งาน เช่น ถูพื้น, เช็ดกระจก, ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ เป็นต้น และผู้เล่นที่มากขึ้น ทำให้ตลาดมีการแข่งขันสูงโดยระดับแมสที่เน้นกลยุทธ์ราคา ส่วนกลุ่มบน-ไฮเอนด์จะเน้นเรื่องประสิทธิภาพและและฟังก์ชั่นการทำงานที่เป็นสมาร์ทเทคโนโลยี

สำหรับซัมซุงจะเน้นทำตลาดกลุ่มกลาง-ไฮเอนด์ ด้วยไลน์อัพหุ่นยนต์ดูดฝุ่น “พาวเวอร์บอท” (Power Bot) 9 รุ่น พร้อมจุดขายเรื่องกำลังดูดสูงสุด 40 วัตต์ และฟังก์ชั่นสมาร์ททั้งการทำงานอัตโนมัติและสามารถเชื่อมต่อกับระบบสมาร์ทโฮมได้ ราคาตั้งแต่ 14,990-29,990 บาท

โดยกลยุทธ์การตลาด นอกจากการเน้นการสาธิตการทำงาน ณ จุดขาย และออกบูทตามงานแสดงสินค้าแล้ว ก็จะมีโปรโมชั่นราคา รวมทั้งการผ่อน 0% เป็นช่วง ๆ

ห้าง-ค้าปลีกขยายพื้นที่รองรับ

นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่ บริหารสินค้าเพาเวอร์มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นได้รับความสนใจมากขึ้นและเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม และมีเวลาในการทำงานบ้านน้อยลง จึงต้องการโซลูชั่นที่ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ตรงกับจุดขายของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นและเทรนด์ของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เน้นฟังก์ชั่นสมาร์ทต่าง ๆ สะท้อนจากการเติบโตของหุ่นยนต์และเครื่องไฟฟ้าชิ้นเล็กที่เติบโตระดับเลข 2 หลักทุกปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากตลาดที่เติบโตขึ้นดังกล่าว ที่ผ่านมาร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ทั้งเพาเวอร์มอลล์และเพาเวอร์บาย ได้ขยายพื้นที่รองรับสินค้ากลุ่มนี้ ด้วยการเพิ่มคอร์เนอร์สำหรับหมวดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นโดยเฉพาะ

แบรนด์ไทย-เทศเร่งทำตลาด

แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าเปิดเผยว่า ตอนนี้นอกจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่แล้ว ยังมีผู้ประกอบการไทยที่หันไปจ้างโรงงานจากจีนให้เป็นผู้ผลิตและนำเข้ามาทำตลาด เช่น โซนา (Sonar) มีหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่น Sonar Easy Bot ราคา 1,890 บาท เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันตลาดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมีผู้เล่นหลายราย นอกจากการวางจำหน่ายตามช่องทางร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว บางค่ายก็ใช้วิธีการนำเข้าไปวางจำหน่ายผ่านทางอีคอมเมิร์ซด้วย โดยกลุ่มบน มีผู้เล่นรายใหญ่อย่าง “ทีเอช โรโบติก” ผู้นำเข้าหุ่นยนต์ทำความสะอาดแบรนด์ “ไอโรบอท” จากสหรัฐ มีจุดขายด้านฟังก์ชั่นสมาร์ทและความหลากหลายของสินค้า ทั้งหุ่นยนต์ดูดฝุ่น-ถูพื้น และทำความสะอาดสระน้ำ

ขณะที่ “เจแปน อินโนเวชั่น” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายหุ่นยนต์เช็ดผนังและกระจก “โฮบอท” (Hobot) ได้เข้าไปวางสินค้าพร้อมมุมสาธิตในบีทูเอสหลายสาขา ชูการรับประกันตลอดชีพ และสามารถใช้ได้กับทุกพื้นผิวเป็นจุดขาย และ “เมนทาแกรม” นำเข้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบรนด์อีโคแวค (Ecovacs) มีการออกร้านและจัดโปรโมชั่นลดราคาร่วมกับคู่ค้า เช่น เจมาร์ท เพื่อขยายฐานลูกค้า ส่วน “แอลจี” มี “ฮอม-บอท” (Hom-Bot) 4 รุ่น รับประกันมอเตอร์ 10 ปี เป็นต้น