การตลาด

อินทรีย์-ออนไลน์

บทความ โดย หนุ่มเมืองจันท์
คอลัมน์ : Marlet-think
ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์

ตอนนี้ผมก้าวขาข้างหนึ่งเข้าไปสู่เรื่องการทำสวนเกษตรอินทรีย์ และการขายออนไลน์แล้ว

เพราะต้องเข้าไปช่วยพี่น้องขาย “ทุเรียน-มังคุด” ผ่านเพจของผม

ก่อนหน้านั้นก็ขายหนังสือออนไลน์ผ่านทางเพจมาก่อน ทำให้พอมีประสบการณ์อยู่บ้าง

ส่วนเรื่องสวนผลไม้ก็มีความรู้พื้นฐานตั้งแต่สมัยเด็กที่พ่อบังคับให้เข้าสวน

ไม่ได้เป็น “มืออาชีพ” เรื่องสวน

แต่วันนี้สวนผลไม้ของที่บ้านมีตัวหลักคือน้องสาวและน้องเขยที่ลาออกจากเภสัชกรโรงพยาบาลมาลุยเต็มตัว

ทั้งคู่เปลี่ยนสวนเป็นแบบเกษตรอินทรีย์

อาศัยพื้นความรู้ด้านเภสัช ทำให้การมองเกษตรอินทรีย์ค่อนข้างทันสมัย

ใช้สมุนไพรแต่มีเหตุผลด้านเคมีมารองรับ

ลองผิดลองถูกมา 2-3 ปี

จนปีนี้ทั้งคู่มั่นใจว่าคุณภาพของทุเรียนและมังคุดใช้ได้

อยากลองขายออนไลน์บ้าง

ซึ่งผมเห็นด้วย เพราะการค้าขายเราควรจะสร้าง “ทางเลือก” ให้กับตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใหญ่หรือสวนผลไม้เล็ก ๆ ของผม

อย่าพึ่งพาใครหรือขายผ่านช่องทางเดียว

การขายออนไลน์ คือ การเปิดทางเลือกใหม่ให้กับสวน

ส่วนอีกเหตุผลหนึ่ง ผมคิดว่าผลไม้อินทรีย์ไม่เหมาะกับการขายผ่านล้งหรือพ่อค้าคนกลางแบบผลไม้ทั่วไป

เพราะ “ล้ง” ให้ “คุณค่า” กับ “เปลือก”

ทุเรียนหนามต้องสวย ไม่มีตำหนิเป็นลายต่างๆ

มังคุด ต้องผิวมัน ไม่มีลายไทยบนเปลือก

ซึ่งเป็นการให้ “คุณค่า” แตกต่างจาก “ชาวสวน”

ชาวสวนจะไม่สนใจเปลือกเลย

“เนื้อ” สำคัญที่สุด

อร่อยไหม

คนซื้อผลไม้อินทรีย์ ต้องเป็นคนที่เข้าใจเรื่องนี้

เขายอมซื้อทุเรียน มังคุดที่ไม่สวย แต่อร่อย เพื่อคุณภาพชีวิตของตัวเอง

ในมุมของผม การขายออนไลน์เหมาะกับผลไม้ที่ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์

เพราะการขายออนไลน์ คือ การขายตรงไปที่ผู้บริโภคเลย

ขายให้กับคนที่รู้คุณค่าของ “เกษตรอินทรีย์”

เราสามารถคุยตรงกับคนกินเพื่อทำความเข้าใจเรื่องเกษตรอินทรีย์ผ่านทางเพจได้

ไม่ว่าเรื่องลายบนเปลือกทุเรียนหรือมังคุด อธิบายได้ว่ามาจากอะไร

เอาสะเดา-ยาเส้น-น้ำส้มควันไม้ ที่ใช้พ่นกันแมลงมาโชว์ได้

หรือการให้ความรู้บางอย่าง เช่น เรื่องทุเรียนที่สุกธรรมชาติ

ผู้บริโภคส่วนใหญ่คุ้นเคยกับทุเรียนที่ใช้สารเคมี พ่อค้าจะเอาสารเคมีบางอย่างป้ายขั้ว เพื่อเร่งสุก

ป้ายปั๊บ สั่งได้เลยว่าประมาณ 3 วันสุก

แต่ทุเรียนอินทรีย์จะสุกธรรมชาติ ใช้เวลานานกว่าทุเรียนที่ใช้สารเคมีและป้ายขั้ว

“หมอนทอง” บางทีใช้เวลา 5-8 วัน หรือมากถึง 10 วัน

ต้องใจเย็น ๆ

ช่องทางขายปกติเราคุยแบบนี้กับลูกค้าไม่ได้

แต่ขายออนไลน์คุยได้

โชคดีที่เพจของผมมีแฟนเพจพอประมาณ และคุ้นเคยกัน พอเปิดขายทุเรียน-มังคุดอินทรีย์ก็เลยไม่มีปัญหา

คุยกันตรง ๆ

พอระบบออนไลน์เดินหน้าได้ทุเรียน-มังคุดของที่สวนก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องการขาย

จีนจะปิดหรือเปิดด่านก็ไม่มีปัญหา

จริง ๆ แล้ว แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีคนทำมาก่อนหน้านี้แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นสวนจันทวิสูตร ปัถวีโมเดล ที่ขายทุเรียน

หรือ “สวนบ้านแม่” ที่ขายมังคุดที่พังงา

กลุ่มนี้เป็นเกษตรกรมืออาชีพ เขาขายผ่านออนไลน์มาหลายปี มีลูกค้าประจำที่แน่นเหนียว

เปิดจองปั๊บ หมดทันที

ผมแค่เดินตามรอยของเขาเท่านั้นเอง

แต่พอลงมือทำตามก็ยิ่งย้ำให้มั่นใจว่าสินค้าเกษตรอินทรีย์เหมาะกับช่องทางการขายออนไลน์

“คำตอบ” ชัดขึ้น

ขายของต้องขายให้ถูกที่ถูกทางครับ