‘บีนแบ็ก’ ปรับแผนจากนิช สู่ แมส บุกสินค้าสุขภาพ ปั้นแบรนด์เจาะกลุ่มวัยรุ่น

สินค้าสุขภาพ บีนแบ็ก

ตลาดแพลนต์เบส 20,000 ล้าน โตแรง “บีนแบ็ก” สบช่องกางยุทธศาสตร์ใหม่ 3-5 ปี เล็งปั้นแบรนด์ทะยานตลาดสุขภาพ ปรับแผนขยายจากนิชสู่แมส พร้อมเปิด Beanbag Mix Almond Protein นวัตกรรมโปรตีนจากอัลมอนด์ ก่อนต่อยอดเวย์โปรตีนเจาะคนรุ่นใหม่ ปั้นยอดโต 300%

นางสาวณิชาภัทร ศรีมโนธรรม ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ธิงค์กิ้ง กู้ด จำกัด ผู้ผลิต ผู้นำเข้าและส่งออกขนมออร์แกนิกประเภทถั่วอบกรอบตรา Beanbag Snacks เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากบริษัทเข้ามาทำตลาดสินค้าในกลุ่มเฮลตี้สแน็กตั้งแต่ปี 2016 พบว่าตลาดมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

จากเทรนด์การดูแลสุขภาพและกระแสอาหารทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ขณะการเข้ามาของโควิด-19 ส่งผลให้เทรนด์สุขภาพเติบโต แม้สถานการณ์กำลังซื้อยังค่อนข้างชะลอ

ขณะที่ราคาวัตถุดิบ-การขนส่ง ปรับตัวสูงขึ้นรวม ๆ กว่า 20% ทั้งวัตถุดิบและค่าขนส่งวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ยังไม่มีการปรับราคาสินค้าแต่อย่างใด

ล่าสุดบริษัทได้มีการปรับยุทธศาสตร์การดำเนินงานในช่วง 3-5 ปี นับจากนี้ด้วยการหันมาโฟกัสการสร้างแบรนด์สินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยจะมีการขยายตลาดเข้าไปใน 2 กลุ่มหลัก คือ

กลุ่มเสริมภูมิคุ้มกัน กลุ่มสปอร์ตนูทริชั่น (กลุ่มแพลนต์เบสโปรตีน) พร้อมปรับสัดส่วนช่องทางจำหน่าย จากช่วงก่อนการระบาดของโควิดบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าองค์กร ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ(B2B) 60% และกลุ่มลูกค้าทั่วไป (B2C) 40%

โดยจะปรับให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองในกลุ่มลูกค้า B2C มากขึ้น ในสัดส่วน 90% และลดพอร์ต B2B เหลือ 10%

“ที่ผ่านมาเราเติบโตมากจากกลุ่มลูกค้า B2B โดยเป็นเบื้องหลังให้กับแบรนด์ใหญ่ ๆ ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม อาหาร แต่มาวันนี้เราเริ่มมองหาแนวทางการสร้างแบรนด์ของตัวเอง

เพื่อสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน และสร้างฐานลูกค้าให้แข็งแกร่ง โดยจะลดสัดส่วนลูกค้า B2B น้อยลง เพิ่มสัดส่วนลูกค้า B2C มากขึ้น และจะปรับการทำตลาดจากเดิมที่ซัพพอร์ตหลังบ้านจะหันมาใช้กลยุทธ์คอลลาบอเรชั่น กับแบรนด์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพแทน

โดยจะเริ่มจากการดึงตัวบุคคลที่มีความชัดเจนด้านสุขภาพเพื่อสร้างแบรนด์ในวงกว้างก่อน เพื่อสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคง”

นางสาวณิชาภัทรกล่าวว่า เพื่อตอบรับกระแสโปรตีนจากพืช หรือแพลนต์เบสที่มีมากขึ้นตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้ตั้งงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท พัฒนาและเปิดตัวสินค้าใหม่ Beanbag Mix Almond Protein วัตถุดิบที่ทำจากอัลมอนด์ ออร์แกนิกสายพันธุ์สเปน 2 รสชาติ คือ Beanbag Mix Almond Protein รสสตรอว์เบอรี่ ที่ใช้สตรอว์เบอรี่Freeze dried แทนการแต่งกลิ่นสังเคราะห์ และรสดาร์กช็อกโกแลต

โดยใช้ช็อกโกแลตแท้จากเบลเยียม เน้นเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ เป็นการต่อยอดสินค้าจากถั่วที่บริษัททำตลาดอยู่เดิม เพื่อสร้างทางเลือกให้ลูกค้า รองรับตลาดแพลนต์เบสมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท (รวมน้ำเต้าหู้) และเทรนด์การเติบโตยังคงมีต่อเนื่อง

โดยจะเน้นการสื่อสารแบรนด์ตอกย้ำความเป็นผู้นำสินค้าเพื่อสุขภาพที่โมเดิร์นฟัน และครีเอทีฟ ผ่านช่องทางออมนิแชนเนล เพื่อสื่อสารด้านแบรนดิ้งที่ทันสมัยและครีเอทีฟให้มากที่สุด เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่ม Gen Y และ Gen Z โดยจะให้ความสำคัญการผสานออนไลน์กับออฟไลน์ในการสื่อสารแบรนด์

โดยเฉพาะวางโพซิชันนิ่งของการเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ พร้อมกันนี้ยังมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ 2-3 รายการต่อปี หรือตามเทรนด์ของนวัตกรรมใหม่ด้านสุขภาพที่มีออกมา ซึ่งในปีนี้มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ออกมารุกตลาดเพิ่มเติม

นอกจากนี้ยังเตรียมขยายตลาดไปยังกลุ่มเวย์โปรตีนเพิ่มขึ้น เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดที่มีมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงและยังมีผู้เล่นน้อยอยู่ โดยปัจจุบันบริษัทมีสินค้าใน 3 แคทิกอรี่ 30 รายการ

ได้แก่ กลุ่มซูเปอร์ฟรุตพาวเดอร์, กลุ่มเรดดี้ทูอีต-ซูเปอร์ฟรุตสมูทตี้มีล (ผักผลไม้สำเร็จรูปพร้อมปั่น) และแพลนต์เบสโปรตีน ทั้งนี้ เพื่อรองรับกลุ่มคนรักสุขภาพอายุเด็กลงเรื่อย ๆ ทำให้ตลาดสินค้าสุขภาพเติบโตเป็นอย่างมาก

และด้วยฐานลูกค้าที่เด็กลงทำให้มองหาสินค้าที่แปลกใหม่ ทันสมัยและสนุก บริษัทจึงพัฒนาสินค้ามาเพื่อตอบโจทย์ หลังตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีแบรนดิ้งที่ชัดเจนในแง่ของแคแร็กเตอร์

และความมีคุณภาพของสินค้าแบบพรีเมี่ยมเฉพาะกลุ่ม แต่หลังจากนี้จะขยายตลาดไปยังกลุ่มแมสมากขึ้น คาดการณ์ว่าน่าจะต้องใช้เวลาราว 3-5 ปี เป็นช่วงขยายตลาดจากตลาดนิชไปยังแมส และวางเป้าหมายสร้างอาณาจักรสินค้าสุขภาพในอนาคต พร้อมสร้างการเติบโต 300% ในสิ้นปี 2565 ภายใต้ความเป็นแบรนด์ health & wellness เพื่อสุขภาพ