รับกระแสซีรีส์อินเดียบูม “ซีหนัง”เติมคอนเทนต์ใหม่

กระแสซีรี่ส์อินเดียสะพรั่งเต็มหน้าจอฟรีทีวีไทย ซีเอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ฯ สบโอกาส เตรียมส่งคอนเทนต์แดนภารตะบุก จัดเต็มทั้งซี่รีส์ ภาพยนตร์ รายการวาไรตี้แน่น หวังชิงคนดูพร้อมปั๊มรายได้โฆษณา

นายวิกรัม ลาด ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท ซี เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้บริหารช่องซีหนัง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันกระแสของภาพยนตร์ ซีรีส์อินเดียได้รับความนิยมจากผู้ชมไทยเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากบรรดาช่องฟรีทีวีต่าง ๆ เริ่มนำคอนเทนต์อินเดียเข้ามาออกอากาศ ประกอบกับวัฒนธรรม วิถีชีวิต สภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับไทย อีกทั้งรูปแบบการนำเสนอที่แปลกใหม่และทันสมัยมากขึ้น ทำให้ผู้ชมไทยให้ความสนใจคอนเทนต์อินเดียมากขึ้น

ทั้งนี้ที่ผ่านมา เครือเอซเซลกรุ๊ป ผู้ผลิตคอนเทนต์และธุรกิจบรอดแคสต์จากอินเดีย ได้เข้ามาเปิดบริษัท ซี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ในไทย ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน โดยดำเนิน 2 ธุรกิจหลัก คือ ช่องซีหนัง และการซื้อขายคอนเทนต์อินเดีย

ในส่วนของช่องซีหนังได้เริ่มออกอากาศมาแล้ว 3 ปี แต่ไม่ได้รับความนิยมจากผู้ชมเท่าที่ควร เนื่องจากออกอากาศบนแพลตฟอร์มโทรทัศน์บอกรับสมาชิก (เพย์ทีวี) ดังนั้นกลางปี 2560 ที่ผ่านมาจึงได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยนำช่องมาออกอากาศเป็นฟรีทูแอร์ เพื่อขยายตลาดผู้ชมให้กว้างขึ้น ซึ่งหลังจากออกอากาศมาประมาณ 6 เดือนก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ชม (เรตติ้ง) และโฆษณาจากสินค้า

“ปัจจุบันผู้ชมไทยให้ความสนใจคอนเทนต์อินเดียเพิ่มขึ้น เพราะช่องฟรีทีวีหลายช่องนำคอนเทนต์อินเดียมาออกอากาศ ด้วยโอกาสดังกล่าว บริษัทได้เพิ่มดีกรีการดำเนินธุรกิจในไทยมากขึ้น ผ่าน 2 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ ขยายช่องทางการออกอากาศช่อง ซีหนัง ให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม พร้อมปรับผังรายการใหม่ ชูซีรีส์ดังจากอินเดีย เพื่อสร้างฐานคนดูประจำจากเดิมที่เน้นการออกอากาศภาพยนตร์เป็นหลัก”

สำหรับทิศทางธุรกิจปี 2561 เดินหน้ารุกตลาดต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มคอนเทนต์อินเดีย ทั้งซีรีส์ ภาพยนตร์ และรายการวาไรตี้ คาดว่าจะลอนช์ซีรีส์และภาพยนตร์ไม่ต่ำกว่า 20 เรื่อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นคอนเทนต์ใหม่ที่ออกอากาศพร้อม ๆ กับที่อินเดียด้วย เช่น ซีรีส์ฟอร์มใหญ่ พระศิวะ พระพิฆเนศ เป็นต้น ปัจจุบันสัดส่วนผังรายการแบ่งเป็น ซีรีส์ ภาพยนตร์ 65% รายการโชว์ เรียลิตี้ 20% ไลฟ์สไตล์โชว์ 15% ของผังรายการทั้งหมด ตั้งเป้าหมายว่าจะขยายฐานผู้ชมให้มากถึง 2 ล้านคน

นอกจากนี้ตอกย้ำภาพลักษณ์ของช่องที่มีคอนเทนต์อินเดียมากที่สุด เตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่ในปี 2561 ภายใต้ชื่อ “Miss Thailand Bollywood” เวทีประกวดเพื่อค้นหาแฟนตัวจริงของซีรีส์อินเดีย

ขณะที่ธุรกิจการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์อินเดียให้แก่ผู้ประกอบการไทยนั้น ก็มีทีมดูแลโดยเฉพาะแต่ขณะนี้ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับธุรกิจนี้มากนัก

“เบื้องต้นโฟกัสที่ธุรกิจทีวีก่อน แต่รายได้จากโฆษณาของช่องซีหนังก็อาจจะไม่มาก ขณะที่บริษัทมีเป้าหมายใหญ่ คือ การเพิ่มฐานผู้ชมให้สอดรับกับนโยบายของบริษัทแม่ที่วางเป้าหมายว่าจะต้องมีฐานผู้ชมให้ได้มากกว่า 3,000 ล้านคนในปี 2561 เพราะนั่นหมายถึงรายได้โฆษณาที่บริษัทแม่จะได้รับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เครือเอซเซลกรุ๊ป เป็นผู้ผลิตคอนเทนต์และดำเนินธุรกิจบรอดแคสต์ 1 ใน 3 รายใหญ่ของอินเดีย และมีช่องทีวี 75 ช่องทั่วโลก เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ดูไบ เป็นต้น ปัจจุบันมีคลังคอนเทนต์อินเดียจำนวนมาก แบ่งเป็น ซีรีส์ 220,000 ชั่วโมง ภาพยนตร์ 3,500 เรื่อง เช่น พระพุทธเจ้า ลักษมี มหารานี เป็นต้น