ยักษ์ร้านอาหารปรับทัพสู้แบรนด์ใหม่ทะลัก

หน้าใหม่ดันธุรกิจร้านอาหารเดือด “ซีอาร์จี” ทุ่มพันล้านปูพรมสาขา ซุ่มเจรจาซื้อแบรนด์ใหม่ ฝั่ง “บาร์บีคิว พลาซ่า” ส่งแคแร็กเตอร์ “บาร์บีก้อน” ปั้นยอด พร้อมผนึกแฟรนไชซีเปิดสแตนด์อะโลน ด้าน “เอสแอนด์พี” เพิ่มสาขาต่างประเทศ ผุดโมเดลร้านใหม่เติมความเฟรช ขณะที่ “เซ็น คอร์ปอเรชั่น” ยกเครื่องเมนู สู้ศึกอาหารญี่ปุ่นเต็มสูบ

แม้จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่พร้อมความหวังว่าเศรษฐกิจกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัวจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา แต่การแข่งขันที่รุนแรงทั้งจากคู่แข่งทางตรง ทางอ้อม ตลอดจนหน้าใหม่ที่เข้ามาชิงกำลังซื้อไม่หยุด ก็ทำให้เชนยักษ์ “ร้านอาหาร” ต้องปรับตัว หากลยุทธ์เตรียมรับมือกับศึกที่ประดังเข้ามารอบทิศ

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโรงแรมและร้านอาหารในเครือเซ็นทรัล ฉายภาพว่า ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในปี 2561 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว ตลอดจนความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม การเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ ๆ จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้การแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารยังรุนแรงต่อเนื่อง เพราะอาหารเป็นสิ่งที่คนต้องบริโภคกันทุกวัน รวมทั้งเป็นธุรกิจที่เข้ามาได้ง่าย ไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง คนนอกวงการจึงสนใจเข้ามา โดยเฉพาะร้านในรูปแบบสเปเชียลตี้ที่มีความแตกต่าง ซึ่งผู้บริโภคให้การตอบรับที่ดี

สอดคล้องกับ เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป หรือซีอาร์จี ที่ปัจจุบันมีเคเอฟซี มิสเตอร์โดนัท โอโตยะ และอานตี้ แอนส์เป็นแบรนด์หลัก ก็เห็นการเติบโตที่ดีต่อเนื่องของแบรนด์เล็ก ๆ ในพอร์ตโฟลิโอ อย่างเปปเปอร์ ลันช์, คัตสึยะ, เทนยะ, โยชิโนยะ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง คาดว่าแบรนด์เหล่านี้จะมีสัดส่วนยอดขายที่มากขึ้นในอนาคต ดังนั้น สาขาใหม่ ๆ ปีนี้ภายใต้งบฯลงทุน 900-1,000 ล้านบาท จะขยายสาขาแบรนด์เล็ก ๆ มากขึ้นด้วย

“ปีที่ผ่านมาหลัก ๆ โตจากการขยายสาขาซึ่งจะเป็นกลยุทธ์หลักปีนี้ พร้อมกับมีกิจกรรมการตลาดที่เหมาะสม จัดการต้นทุนภายในให้ดีขึ้น เช่น ลดการใช้พนักงานพาร์ตไทม์ เพื่อรักษากำไรให้เติบโต ส่วนการซื้อแบรนด์ใหม่มาเสริมพอร์ต กำลังพูดคุยอยู่ 2 รายทั้งแบรนด์ในไทยและต่างประเทศ แต่ยังไม่มีข้อสรุป ณ ขณะนี้”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปี 2561 นี้จะมีแคมเปญใหญ่ในโอกาสครบรอบ 40 ปีของซีอาร์จี ซึ่งอยู่ระหว่างการวางแผนงาน และแต่ละแบรนด์จะมีเมนูใหม่ ๆ มากขึ้นให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภค ผ่านการพัฒนาของฝ่ายอาร์แอนด์ดีกลางที่ซีอาร์จีตั้งขึ้นมาในปีนี้เพื่อดูแลการพัฒนาอาหารให้กับแบรนด์ในเครือ

เช่นเดียวกับ ร้านปิ้งย่าง “บาร์บีคิวพลาซ่า” ที่ปีนี้เตรียมกิจกรรมการตลาดออกมาสร้างสีสันไม่หยุด หลังจากปลายปีที่ผ่านมาต่อยอดขายไลเซนส์แคแร็กเตอร์ “บาร์บีก้อน” เป็นลายพิเศษของเครื่องใช้ไฟฟ้า “แอนิเทค” เพื่อหาช่องทางเพิ่มรายได้ในรูปแบบใหม่ ๆ หรือจับมือผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่น “แกร็บ” ส่งรถยนต์ลายบาร์บีก้อนตระเวนให้บริการ ย้ำแบรนด์ให้อยู่ในการรับรู้ของผู้บริโภคเสมอ รับมือกับแบรนด์ใหม่ ๆ ที่มีโซเชียลมีเดียเข้ามาช่วยให้แข่งขันกับร้านอาหารเชนใหญ่ได้มากขึ้น

ซึ่งนางชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ผู้บริหารร้าน “บาร์บีคิวพลาซ่า” กล่าวว่า ปี 2561 มีแผนเปิดสาขาใหม่ประมาณ 15 สาขา จากปัจจุบันมีราว 138 สาขา ควบคู่กับการขยายธุรกิจในต่างประเทศที่ปัจจุบันมีกว่า 20 สาขาในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และกัมพูชา เดินหน้าสู่การเป็นรีจินอลแบรนด์ในอาเซียน ซึ่งเร็ว ๆ นี้ มาสเตอร์แฟรนไชซีในกัมพูชา เพิ่งลงทุนเปิดร้านบาร์บีคิวพลาซ่าในรูปแบบสแตนด์อะโลนเป็นครั้งแรกในเขตพื้นที่ TK Area ด้วยงบลงทุนสูงกว่าเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าเท่าตัว ตามเทรนด์ร้านอาหารในพนมเปญที่นิยมเปิดเป็นรูปแบบสแตนด์อะโลนเพราะห้างมีจำนวนจำกัด หลังจากก่อนหน้านี้เปิดสาขาแรกในศูนย์การค้าอิออนมอลล์ เมื่อกรกฎาคม 2560

“ในอนาคตบาร์บีคิวพลาซ่าไม่ปิดกั้นการขยายสาขารูปแบบสแตนด์อะโลนในไทยหรือในประเทศอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น พฤติกรรมผู้บริโภค, ทิศทางการขยายตัวของพื้นที่ค้าปลีก ฯลฯ”

ขณะที่นางเกษสุดา ไรวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสแอนด์พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นอกจากเปิดร้านในไทย “เอสแอนด์พี” จะเป็นแบรนด์หลักสำหรับการขยายสาขาในอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้าน ไปทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์และร่วมทุน ซึ่งภายในกลางปี 2561 จะเปิดสาขาในกัมพูชาเพิ่มอีก 3 สาขา จากปัจจุบันมี 2 สาขา

สำหรับตลาดในประเทศ เอสแอนด์พีปรับตัวรับมือกับแบรนด์ใหม่ที่เข้ามาในตลาด ตลอดจนร้านสะดวกซื้อที่หันมาให้ความสำคัญกับกลุ่มอาหารพร้อมทานมากขึ้น ด้วยการพัฒนาโมเดลร้านใหม่ ๆ ให้แบรนด์ยังสดใหม่ทันสมัย เช่น เริ่มทดลองโมเดล “เอสแอนด์พี โกโกบ็อกซ์” รองรับกลุ่มคนเดินทางที่สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ (พญาไท) ตั้งแต่กันยายนที่ผ่านมา และเตรียมเปลี่ยนบางสาขาบนสถานีรถไฟฟ้าให้เป็นร้านโมเดลใหม่นี้ หรือการเปิดร้านอาหารไทย-จีน “นายห้าง” ที่โครงการล้ง 1919 แหล่งท่องเที่ยวใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

“ปีนี้จะได้เห็นความใหม่ของเอสแอนด์พีในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องอาหารและการตลาด คาดว่าจะเติบโตจากปีที่ผ่านมา 8-10%”

ด้านนายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจแบรนด์ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารญี่ปุ่น “เซ็น” กล่าวว่า ธุรกิจร้านอาหารในเวลานี้ยังมีความท้าทายจากการแข่งขันที่รุนแรง ขณะที่เทคโนโลยีและสื่อออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ต่อจากนี้ เซ็นจึงต้องปรับตัว ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการสื่อสารมากขึ้น พัฒนาอาหารและบริการต่อเนื่อง

ล่าสุด ยกเครื่องเมนูเล่มใหม่ เพิ่มเมนูรสชาติจัดจ้านเป็นทางเลือกมากขึ้น พร้อมปรับปรุงร้าน ทำซูชิบาร์ให้ลูกค้าชมเชฟทำซูชิหรือแล่ปลาได้ รวมทั้งเตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชั่นบนมือถือ เพื่อสื่อสารโปรโมชั่น และรองรับการสั่งดีลิเวอรี่ที่จะเป็นอีกช่องทางการขายสำคัญ รวมทั้งเพิ่มช่องทางรับฟังความคิดเห็นลูกค้าเพื่อนำมาพัฒนาการบริการ