โรงพยาบาลนครธน อัพเกรดบริการ ทุ่มงบผุดศูนย์เฉพาะทาง

แพทย์หญิงศิเรมอร ทองสิมา
แพทย์หญิงศิเรมอร ทองสิมา

โรงพยาบาลนครธน ปรับโพซิชันนิ่ง ยกระดับจากโรงพยาบาลรักษาโรคทั่วไป สู่โรงพยาบาลเฉพาะทาง ล่าสุดจับมือสไมล์ โอเปอร์เรชั่นส์ พัฒนาศูนย์ทันตกรรมครบวงจร พร้อมยกระดับศูนย์ ศูนย์มะเร็ง-ศูนย์กระดูกสันหลัง-หัวใจ เสริมทัพการรักษาโรคซับซ้อน หวังขยายฐานลูกค้าใหม่ ตั้งเป้าปี 2565 เติบโต 20%

แพทย์หญิงศิเรมอร ทองสิมา รองผู้อำนวยการสายงานแพทย์ โรงพยาบาลนครธน เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลครึ่งปีแรกเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ถ้าเทียบกับช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่หลายคนชะลอหยุดพักรักษาโรคที่ไม่ได้เร่งด่วนออกไป และเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอย่างทั่วถึง ทำให้จำนวนคนไข้เริ่มกลับมารักษาตามปกติ โดยเฉพาะจำนวนผู้ป่วยนอกที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ประกอบกับปัจจัยของโควิดทำผู้คนหันมาใส่ใจด้านการดูแลสุขภาพมากขึ้น

ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ปี 2564 โรงพยาบาลนครธนมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 13% ขณะที่รายได้ครึ่งปีแรก 2565 เติบโตอยู่ที่ 31% และมีผลกำไรเติบโต 135% สัดส่วนลูกค้ายังคงเป็นคนไทย 95% และต่างชาติ ได้แก่ จีนและพม่า 5% ที่ค่อนข้างมีกำลังซื้อ

ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลนครธน ที่เปิดให้บริการมาตลอดระยะเวลา 25 ปี ได้ปรับโพซิชันนิ่งใหม่จากโรงพยาบาลรักษาโรคทั่วไปสู่การเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง เพื่อรองรับโอกาสของตลาดที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ล่าสุดได้เปิดศูนย์ทันตกรรมของโรงพยาบาล ร่วมมือกับสไมล์ โอเปอร์เรชั่นส์ เพื่อยกระดับความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและเป็นจุดขายของโรงพยาบาล ชูนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาช่วยวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เริ่มตั้งแต่การจัดฟันใสที่นำเทคโนโลยีจำลองรอยยิ้มแบบดิจิทัลมาช่วยกำหนดระยะเวลาการรักษาได้ โดยเน้นเจาะกลุ่มเด็กอายุ 6 ขวบ รวมไปถึงการบริการฟอกสีฟันด้วยเทคโนโลยี LED ระบบ zoom whitening เน้นเจาะกลุ่มวัยทำงาน ตามด้วยกลุ่มของผู้มีความผิดปกติของกระดูกขากรรไกรและใบหน้า และการดูแลฟันกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นต้น

สอดคล้องกับตลาดทันตกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าเม็ดเงินที่สะพัดของตลาดทันตกรรมในเมืองไทยมีสูงถึง 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคลินิกทันตกรรมเอกชน 94% และโรงพยาบาล 6% โดยแบ่งเป็นทันตกรรมบูรณะ 15% ทันตกรรมเพื่อความสวยงาม 19% และทันตกรรมป้องกันรักษาทั่วไป 66%

ทั้งนี้ ศูนย์ทันตกรรมนครธน มีความพร้อมด้านเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ มีเทคโนโลยีประสิทธิภาพ สามารถรักษาด้านทันตกรรมที่มีความซับซ้อนในราคาที่เข้าถึงง่าย ควบคู่กับการทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์และออฟไลน์ คาดการณ์ว่าจะช่วยผลักดันให้ศูนย์ทันตกรรมมียอดคนไข้จากลูกค้าที่อาศัยอยู่ในย่านพระราม 2 เพิ่มขึ้น และจะช่วยให้โรงพยาบาลเติบโตเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

แพทย์หญิงศิเรมอรกล่าวต่อถึงแผนการดำเนินงานในปี 2565 ว่า โรงพยาบาลนครธนมุ่งให้ความสำคัญในการปรับเปลี่ยนการให้บริการจากโรงพยาบาลรักษาโรคทั่วไป สู่การเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางที่มีความพร้อมในการรักษาและการบริการ โดยบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละวิชาชีพ เตรียมยกระดับทั้งหมด 5 ศูนย์เดิมที่มีในโรงพยาบาลให้มีความเฉพาะทางมากขึ้น ได้แก่ ศูนย์มะเร็ง ฮอไรซัน, ศูนย์กระดูกสันหลัง โดยความร่วมมือกับบำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก, ศูนย์สมองและระบบประสาท และศูนย์หัวใจ เพิ่มศักยภาพในการรักษาโรคซับซ้อนและขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้เตรียมงบฯทั้งหมด 360 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นใช้สำหรับซื้อเครื่องมือแพทย์ 160 ล้านบาท และรีโนเวตรวมระบบสาธารณูปโภคโรงพยาบาลในแต่ละปี 200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนจะค่อย ๆ ฟื้นตัว จากสถานการณ์โควิดที่ไม่รุนแรงเหมือนช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ตลอดจนการเข้าถึงวัคซีนที่ครอบคลุมมากขึ้น จะเป็นปัจจัยหนุนให้โรงพยาบาลเอกชนเริ่มฟื้น ขณะที่โรงพยาบาลนครธน ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของปี 2565 อยู่ที่ 20%