MBK เปิดตัวร้านค้า ดึงชาวไทย-เทศหนุนรายได้ฟื้น

“เอ็ม บี เค” เปิดตัวพันธมิตรสารพัดร้านค้า รองรับลูกค้าคนไทย-เทศ เผยชาวอิสราเอล ฝรั่งเศส กลับมาแล้ว ฟากฝั่งผู้เช่ายังมีมาตรการช่วยเหลือให้มีสภาพคล่อง มั่นใจสิ้นปีรายได้ฟื้น 75%

วันที่ 4 สิงหาคม 2565 นายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ พาราไดซ์ พาร์ค พาราไดซ์ เพลส เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ เปิดเผยว่า หลังจากปรับปรุงพื้นที่ภายในศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เพิ่มความหลากหลายของร้านค้าและสินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าคนไทย เพื่อขยายฐานลูกค้าในประเทศให้เพิ่มขึ้น

ส่งผลให้จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการมีอัตราการเติบโตขึ้น ทั้งจากลูกค้าคนไทยที่เป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ซึ่งกลุ่มนี้เข้ามาใช้บริการในโซน LEARNING HUB ศูนย์รวมสถาบันการศึกษา และติวเตอร์ชั้นนำ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์มากขึ้น โดยสิ้นไตรมาส 2 ของปี 2565 ปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 60,000-70,000 คนต่อวัน

ทั้งนี้ ตลอดปี 2565 จะมีร้านค้าแบรนด์ชั้นนำทยอยเปิดให้บริการ โดยเฉพาะเดือนสิงหาคมนี้มีร้านเปิดใหม่ ได้แก่ ร้าน POSH (พอช) แบรนด์ผลิตภัณฑ์กระเป๋าสุภาพสตรี ชาสมุนไพรไทย ขนมไทย ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมสกินแคร์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และอีกหลาย ๆ ร้านที่เตรียมเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้

โดยร้านเปิดใหม่มีทั้งพันธมิตรจากต่างประเทศ ร้านค้าและแบรนด์ของคนไทย ซึ่งเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ สนับสนุนแบรนด์ของคนไทย อย่างกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องหอมที่เพิ่งเปิดให้บริการ

ภายใต้แบรนด์ Herb Care แบรนด์ Khas เป็นที่สนใจของทัวริสต์ซื้อกลับไปใช้เองและซื้อเป็นของฝากจำนวนมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในศูนย์ หลัก ๆ ยังเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองและครอบครัว ส่วนใหญ่มาจากประเทศในโซนยุโรปและเอเชีย ซึ่ง 4 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย อิสราเอล ฝรั่งเศส และเยอรมนี ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ยอดขายโดยภาพรวมฟื้นตัวได้

สำหรับอัตราการเช่าพื้นที่ภายในศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค (Occupancy Rate) ได้แก่ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์, พาราไดซ์ พาร์ค, พาราไดซ์ เพลส และเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 มีผู้เช่าเต็ม 100% ทั้งโซนร้านอาหารและร้านค้าทั่วไป โดยบริษัทยังคงมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เช่าตามประเภทกิจการ เพื่อให้ผู้เช่ามีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจระยะยาว


อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าสิ้นปี 2565 รายได้กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าจะฟื้นกลับมาที่ประมาณ 70-75% เมื่อเทียบรายได้ปี 2562