ส่องกำไรหุ้นรพ.รับ “อู่ฮั่น” ระบาด โบรกแนะลงทุนรายตัวเน้นผูกประกันสังคม

โบรกฯชี้สถานการณ์ไวรัส “อู่ฮั่น” ระบาด หนุนบรรยากาศเชิงบวกหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล “บล.เอเซีย พลัส” ชี้ปัจจัยบวกจากการเพิ่มค่าหัวประกันสังคมหนุนโรงพยาบาลที่รับประกันสังคม ฟาก “บล.เคทีบี” เชียร์ซื้อ “BDMS-BCH-CHG” ชี้มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว-โอกาสเติบโตสูง

นายสุวัฒน์ วัฒนพรพรหม ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า บริษัทประเมินว่าการระบาดของไวรัสโคโรน่า (อู่ฮั่น) ช่วงนี้จะเป็นบรรยากาศเชิงบวกแก่หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล เนื่องจากจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีแนวโน้มเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเร็วขึ้น จากเดิมที่หากมีอาการป่วยในภาวะปกติอาจรอดูอาการก่อนเข้ารักษา อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อรายได้หรือกำไรของกลุ่ม

ขณะที่ปัจจัยการปรับขึ้นค่าใช้จ่ายรายหัวของผู้ป่วยประกันสังคม จะเป็นบวกต่อกลุ่มโรงพยาบาลประกันสังคม ที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/62 อาจได้รับแรงกดดันจากเงินประกันในส่วนโรคร้ายแรงที่คาดว่าจะได้รับกลับไป ต่ำกว่าอัตราที่ประกันสังคมกำหนด จาก 12,800 บาท เหลือ 7,100 บาท

“หุ้นโรงพยาบาลที่น่าสนใจ เรามองอยู่ 2-3 โรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลประกันสังคมที่ปลายปี 2562 ได้รับผลกระทบจากการเบิกเงินประกันสังคมได้น้อย ส่งผลให้ฐานรายได้ต่ำกว่าปกติ ซึ่งในปี 2563 รายได้จะมีการปรับขึ้น และเห็นการเติบโตค่อนข้างโดดเด่น อาทิ บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) ราคาเหมาะสมที่ 22.10 บาท และ บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) ราคาเหมาะสมที่ 2.98 บาท”

นายสุวัฒน์กล่าวว่า ส่วนของโรงพยาบาลที่ไม่ได้รับประกันสังคม แนะนำลงทุนใน บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ราคาเหมาะสม 28.00 บาท เนื่องจากมีการเร่งขยายเครือข่ายของโรงพยาบาลในกลุ่ม ขณะที่ปัจจุบันเป็นช่วงที่เริ่มเพิ่มอัตราการใช้บริการ ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ปรับเพิ่มขึ้นต่อไป

ขณะที่นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า บล.เคทีบีให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลมากกว่าตลาด (overweight) เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยอ่อนไหวกับภาวะเศรษฐกิจ โดยแนะนำลงทุนรายตัว (selective buy) ในโรงพยาบาลที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและมีโปรเจ็กต์หนุนการเติบโตในอนาคต

“กลุ่มโรงพยาบาลที่น่าสนใจ ได้แก่ BDMS ราคาเป้าหมายที่ 28.00 บาท BCH ราคาเป้าหมายที่ 18.00 บาท และ CHG ราคาเป้าหมายที่ 3.00 บาท”

นายมงคลกล่าวด้วยว่า สำหรับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า อาจจะไม่ส่งผลกระทบเชิงบวกแก่หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล เนื่องจากจะกระทบต่อลูกค้าต่างชาติที่เดินทางเข้ามาใช้บริการจะโดยเฉพาะโรงพยาบาลที่มีฐานลูกค้าชาวต่างชาติสูง เช่น BDMS และ บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) เป็นต้น ซึ่งแม้ว่าอาจจะมีลูกค้าชาวไทยเข้ามาตรวจเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีโรคระบาด แต่ก็ไม่สามารถชดเชยรายได้ส่วนที่หายไปจากลูกค้าต่างชาติได้