“หุ้น-บอนด์-บาท” อ่วมยกแผง ฝรั่งเทขายหนัก/จี้ ธปท.แทรกแซงค่าเงิน

“บาท-บอนด์-หุ้น” อ่วมยกแผง ต่างชาติเทขายไม่ยั้ง นักวิเคราะห์ชี้แนวโน้มเงินบาทอ่อนค่าแตะ 33 บาท/ดอลลาร์ในไตรมาสแรกนี้ เหตุต่างชาติไม่เชื่อมั่น จี้ ธปท. ดูแลความผันผวน ฟากตลาดบอนด์ไทยอ่วมไม่แพ้กัน มี.ค. 19 วัน เทขายกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท ดันบอนด์ยีลด์พุ่ง-ราคาตกฮวบ แบงก์ชาติต้องอัดสภาพคล่องกว่า 1 แสนล้านบาท ด้านตลาดหุ้นร่อแร่ตั้งแต่ต้นปีมาต่างชาติขายสุทธิแล้วเฉียด 1 แสนล้านบาท

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักวิเคราะห์ตลาดการเงินและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทอ่อนค่าไปจนทะลุระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าสุดในรอบ 15 เดือนไปแล้ว โดยตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบันเงินบาทอ่อนค่าไปกว่า 8% และ มีแนวโน้มอ่อนค่าไปถึง 33 บาท ภายในไตรมาสแรกนี้ เพราะต่างชาติยังเทขายอย่างต่อเนื่อง

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์

“ตอนนี้คิดว่าเงินบาทและสกุลเงินกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (EM) มีปัญหาด้านความเชื่อมั่นกันหมด ทางที่ดีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรเข้ามาเพิ่มสภาพคล่อง และลดความผันผวนของค่าเงินให้ได้มากกว่านี้ เพราะกรอบเคลื่อนไหว วันละ 50 สตางค์ ห่างเกินไป ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถหยุดกระแสเงินทุนไหลออกได้เลย ซึ่งจะยิ่งทำให้นักลงทุนในประเทศและผู้ประกอบการขาดความเชื่อมั่นไปอีก” นายจิติพลกล่าว

แหล่งข่าวสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตลาดตราสารหนี้ช่วงนี้ยังเป็นแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติ เฉพาะเดือน มี.ค.นี้ ต่างชาติขายสุทธิไปแล้วกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท โดยยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) อยู่ที่กว่า 7.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ในปัจจุบันเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย ณ 19 มี.ค. บอนด์ยีลด์รุ่นอายุ 10 ปี ปรับขึ้น 0.26% มาอยู่ที่ 1.81% เกือบเท่ากับระดับเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ตั้งแต่ต้นปีมาเพิ่มขึ้นแล้ว 0.32%

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา ยีลด์ปรับขึ้นมาค่อนข้างแรง จากแรงเทขายของต่างชาติ จึงค่อนข้างกดดันต่อราคาพันธบัตร ทำให้ราคาปรับลดลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ ธปท. เริ่มเข้ามาดูแลตลาดบอนด์ไม่ให้มีความผันผวนมากเกินไปในแต่ละวัน อย่างไรก็ดี แรงขายต่างชาติยังไม่ได้ดูน่ากังวลมากนัก โดยเฉลี่ยขายประมาณ 5-6 พันล้านบาทต่อวัน ซึ่งตลาดยังรับได้ เพราะมูลค่าตลาดพันธบัตรของไทยทั้งหมดมีมากกว่า 13 ล้านล้านบาท ในขณะที่มูลค่าที่ต่างชาติถือครองพันธบัตรไทยมีไม่ถึง 1 ล้านล้านบาท

“ตอนนี้ตลาดบอนด์ทั่วโลก ยีลด์ค่อนข้างปรับขึ้นแรงเหมือนกันหมด แม้แต่ตลาดบอนด์สหรัฐ นั่นเป็นเพราะว่าคนต้องการถือเงินสด ดังนั้นคงต้องรอให้เหตุการณ์ต่าง ๆ นิ่งก่อน แต่ปัจจุบันสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงตลอด ซึ่งตอนนี้จะขึ้นอยู่กับธนาคารกลางแต่ละประเทศจะมีมาตรการใหม่ ๆ อะไรออกมา ซึ่งทำให้ตลาดบอนด์จะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน” แหล่งข่าวกล่าว

นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท.ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมาที่ตลาดพันธบัตรไทยมีความผันผวนสูง ตามความตื่นตระหนกในตลาดการเงินโลก โดย ธปท.ได้เข้าอัดฉีดสภาพคล่องในตลาดพันธบัตรผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรภาครัฐ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ 13-19 มี.ค. 63 เข้าซื้อพันธบัตรแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท

“ธปท.มีแผนลดวงเงินการประมูลพันธบัตร ธปท.ในระยะต่อไป เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาดพันธบัตรอีกทางหนึ่ง และยืนยันว่า ธปท.พร้อมที่จะเข้าซื้อพันธบัตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความผันผวนของตลาดพันธบัตรและเสริมให้ตลาดมีสภาพคล่องในการซื้อขายอย่างเพียงพอ” นายเมธีกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยตกหนักพบว่า เกิดจากนักลงทุนต่างชาติเทขายหนักที่สุด โดยเฉพาะในเดือน มี.ค. (ถึง ณ 19 มี.ค.) ต่างชาติขายสุทธิไปกว่า 5.88 หมื่นล้านบาท และตั้งแต่ต้นปีมา ต่างชาติขายสุทธิไปแล้ว 9.57 หมื่นล้านบาท