ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักวิเคราะห์ตลาดการเงินและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (27 มี.ค.) ที่ระดับ 32.63 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 32.77 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ระหว่าง 32.55-32.85 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ในคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ดัชนี S&P500 บวกแรง 6.2% และ Euro Stoxx 50 ขยับขึ้น 1.7% ด้วยความหวังว่านโยบายการคลังที่มหาศาลของสหรัฐจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจทดถอยในปีนี้ได้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
อย่างไรก็ดี ภาพเศรษฐกิจสหรัฐ ดูจะไม่แข็งแรงนัก โดยล่าสุดจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ (Initial jobless Claim) ปรับตัวขึ้นจากระดับ 2.8 แสนตำแหน่ง มาอยู่ที่ 3.2 ล้านตำแหน่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าถ้าโควิด-19 ไม่จบเร็ว ก็อาจเห็นการว่างงานในสหรัฐขยับขึ้นได้เป็นถึง 9% เทียบเท่ากับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008
ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ดัชนีวัดความกลัวอย่าง VIX Index ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 61% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ทั่วโลกก็เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ล่าสุดบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี ซื้อขายที่ระดับ 0.83% ขณะที่บอนด์ยีลด์เยอรมันก็ปรับตัวลงมาซื้อขายที่ระดับ -0.38%
เช่นเดียวกับในฝั่งตลาดเงิน ที่ภาพเป็นคนละเรื่องกับฝั่งหุ้น โดยเงินโครนนอร์เวย์ (NOK) ปอนด์อังกฤษ (GBP) และนิวซีแลนด์ดอลลาร์ (NZD) เป็นสกุลเงินที่ปรับตัวบวกมากที่สุด ด้วยความเชื่อว่าในโยบายการคลังของสหรัฐไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ และจะส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงในที่สุด
“ส่วนของเงินบาท ยังคงอยู่ในภาวะสภาพคล่องต่ำ และเคลื่อนไหวตามทิศทางของดอลลาร์เป็นหลัก อย่างไรก็ดี ต้องถือว่าธปท.ควบคุมความผันผวนได้ดีมาก โดยในช่วงสองวันที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นเพียง 0.58% ใกล้เคียงกับเงินหยวนจีน (CNY) แม้ความเสี่ยงดอลลาร์แข็งจะยังไม่หายไป แต่ในระยะยาวเสถียรภาพในตลาดเงินที่แข็งแกร่งจะทำให้มีผู้นำเข้าและผู้ส่งออกกลับเข้ามาในตลาดมากขึ้น” ดร.จิติพลกล่าว