กลุ่มเวิร์นส์ ออโตโมทีฟ เปิดตัวไฮเปอร์ อีวี รุ่นแรกในไทย“Lotus Eletre” หลังได้สิทธิทางภาษีนำเข้าจากโรงงานจีน ทำราคาน่าสนใจ ขายเริ่มต้น 5.8-6.5 ล้านบาท
วันที่ 22 กันยายน 2566 นายธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการส่วนภูมิภาค บริษัท เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อโลตัส (Lotus) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่าบริษัทได้เเนะนำรถยนต์ไฮเปอร์เอสยูวี ไฟฟ้า 100% อย่างโลตัส อีเลททร้า (Lotus ELetre) ออกสู่ตลาดประเทศไทยเป็นทางการ
โดยตั้งเป้ายอดขายโลตัส อีเลททร้า (Lotus ELetre) ไว้ที่ 100 คันต่อปี โดยขณะนี้มียอดจองสิทธิ์เข้ามาแล้วไม่น้อยกว่า 80 คัน โดยจะเริ่มส่งมอบรถลอตแรกได้พายในปีนี้ 50 คัน ส่วนที่เหลือคาดว่าจะส่งมอบได้ในไตรมาสแรกของปี 2567
โลตัส อีเลททร้า (Lotus ELetre)มี 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- Lotus Eletre S ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 603 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 710 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม.ต่อชม. ใช้ระยะเวลา 4.5 วินาที ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ(4WD) ความจุแบตเตอรี่ขนาด 112 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทาง 600 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) ราคา 5.89 ล้านบาท
- Lotus Eletre R ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 905 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 985 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม.ต่อชม. ใช้ระยะเวลา 2.95 วินาที ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ความจุแบตเตอรี่ขนาด 112 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทาง 490 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) ราคา 6.5 ล้านบาท
บริษัทได้นำเข้ารถรุ่นดังกล่าวมาจากโรงงานผลิตจาประเทศจีน ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีระหว่างไทย–จีน จึงสามารถทำราคาจำหน่ายยออกมาได้ค่อนข้างดีและแข่งขันได้กับรถยนต์ในกลุ่มเดียวกันอย่าง ปอร์เช่ คาเยนน์ และ บีเอ็มดับเบิลยู ix เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีกอย่างน้อย 2 รุ่น ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสโดยคาดว่าภายในปี 2569 หรือในอีก 3 ปีจากนี้ โลตัส จะมียอดขายในประเทศไทยที่ระดับ 500 คัน
“รถลอตแรกส่งมอบ ได้ภายในปีนี้ประมาณ 50 คัน ส่วนลูกค้ามา ใหม่ก็จะต้องรอรับรถได้ในไตรมาสแรก ของปีหน้า การที่เรานำเข้ารถจากโรงงานจีน ช่วยให้เราทำราคาได้ถูกลงไปถึง 3 ล้านบาท หรือถูกลงไปราวๆหนึ่งแสนปอนด์ เมื่อเทียบกับการนำรถจากอังกฤษ เพราะเราได้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีในการยกเว้นอากรนำเข้าระหว่างไทย–จีนนั้นเอง”
ปัจจุบันในประเทศไทยมีประชากรรถยนต์โลตัส สะสมที่ 90 -100 คัน ดังนั้นความพร้อมของศูนย์บริการหลังการขายและศูนย์การจำหน่ายจึงไม่จำเป็นต้องมีความเป็นห่วงเนื่องจากบริษัทมีจำนวนบุคลากรและศูนย์บริการที่สามารถรองรับได้อย่างเพียงพอกับจำนวนรถยนต์
ในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายโดยจะจับมือกับพันธมิตรเพื่อขยายไปยังพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งภายในโครงการ ดิ เอ็มสเฟียร์ ด้วย