โตโยต้า-มาสด้า เอาใจ “ทรัมป์”

รายงานข่าวจากโตโยต้า มอเตอร์ส คอร์ป และ มาสด้า มอเตอร์ส คอร์ป ระบุว่า 2 ค่ายรถยนต์จะร่วมสร้างโรงงานประกอบแห่งใหม่ในฮันต์วิลล์ รัฐแอละแบมา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะลงทุนเป็นเม็ดเงินราว 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตในสหรัฐอเมริกา และขยายความนิยมค่ายรถยนต์จากต่างชาติให้เพิ่มมากขึ้นในรัฐต่าง ๆ ทางภาคใต้ประเทศ

การสร้างโรงงานดังกล่าว จะช่วยสร้างงานในสหรัฐถึง 4,000 ตำแหน่ง และจะผลิตรถยนต์เพิ่มได้ 300,000 คัน

ภายในปี 2021 โดยโตโยต้าเล็งผลิตรถยนต์รุ่นโคโรลล่า 150,000 คัน ส่วนจำนวนที่เหลือเป็นการผลิตของมาสด้า ซึ่งยังไม่เปิดเผยว่าจะรุ่นไหน

ปัจจุบันรัฐแอละแบมามีโรงงานประกอบรถยนต์ของค่ายรถยนต์ต่างชาติ 3 ค่ายด้วยกัน ได้แก่ เดมเลอร์ ซึ่งผลิตเมอร์เซเดส-เบนซ์, ฮอนด้า มอเตอร์ส และฮุนได มอเตอร์ส โดยเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เดมเลอร์ประกาศจะลงทุนเพิ่ม 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในแอละแบมา หลังจากมียอดลงทุนสะสม 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ นับตั้งแต่ปี 1997 เป็นต้นมา

การลงทุนของโตโยต้าในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2017 ทางค่ายถูกประธานาธิบดีสหรัฐ “โดนัลด์ ทรัมป์” วิจารณ์แผนการจัดตั้งโรงงานใหม่ในเม็กซิโก ซึ่งภายหลังถูกผู้นำฝีปากร้ายกดดัน โตโยต้าได้ออกมาแถลงว่าจะลงทุน 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในสหรัฐอเมริกา 5 ปีข้างหน้าทันที

ปัจจุบัน โตโยต้ามีการลงทุนในสหรัฐแล้วในภูมิภาคมิดเวสต์และภาคใต้ คือ ในรัฐอินเดียนา เคนทักกี มิสซิสซิปปี และเทกซัส โดยรัฐแอละแบมาจะเป็นโรงงานที่ 5 ในสหรัฐ สำหรับมาสด้า โรงงานในรัฐแอละแบมาจะเป็นโรงงานการผลิตแรกของค่ายในสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้มาสด้า

เคยร่วมผลิตรถยนต์กับค่ายฟอร์ด มอเตอร์สในมิชิแกน แต่ได้ยุติไปเมื่อปี 2012

โรงงานประกอบแห่งใหม่ล่าสุดนี้ จะตั้งอยู่ไม่ไกลโรงงานผลิตเครื่องยนต์ของโตโยต้าซึ่งตั้งขึ้นในแอละแบมามาก่อน โดยโรงงานผลิตเครื่องยนต์แห่งนี้เป็นโรงงานผลิตเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโตโยต้า โดยผลิตเครื่องยนต์ 4 สูบ V-6 และ V-8 และผลิตเครื่องยนต์กว่า 702,000 เครื่องในปี 2016

นอกจากแผนการสร้างโรงงานในแอละแบมา โตโยต้าและมาสด้ายังเล็งจะสร้างโรงงานเพิ่มอย่างน้อย 11 แห่งในสหรัฐเพื่อเพิ่มอิทธิพลของทั้ง 2 ค่ายรถยนต์