EA ปัดฝุ่นรถนั่ง “ไมน์สปาวัน” ต่อยอดปิกอัพอีวี-เร่งพัฒนาโรงงานแบตฯ

ไมน์สปาวัน

EA เดินหน้าบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าต่อเนื่อง ปัดฝุ่นโปรเจ็กต์รถยนต์นั่งใช้แบตเตอรี่ 100% “ไมน์ สปาวัน” หลังส่งปิกอัพอีวี ลุยตลาดปลายปีนี้แล้ว พร้อมเล็งขายตลาดส่งออก

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนธุรกิจว่า ยังให้ความสำคัญกับการขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไมน์ โมบิลิตี้ โดยเตรียมปัดฝุ่นโปรเจ็กต์รถยนต์นั่งไฟฟ้า 100% “ไมน์ สปาวัน” (MINE SPA1) คาดว่าจะแนะนำออกมาสู่ตลาดเพื่อให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสอย่างแน่นอน

“ตอนนี้เรามีความชัดเจนว่า ขอมุ่งรถเชิงพาณิชย์ก่อน ส่วนสปาวัน เราไม่ทิ้งอย่างแน่นอน เพราะทำกันมาค่อนข้างเยอะมากแล้ว เพียงแต่อาจจะสลับแผนงานนิดหน่อยเพื่อพัฒนารถให้มีความเหมาะสม และตรงต่อการใช้งานมากที่สุดก่อน เรายืนยันว่ายังทำต่อเนื่อง แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนหน้าตากันพอสมควร ซึ่งต้องอดใจรอกันอีกสักระยะ”

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวรถยนต์เชิงพาณิชย์ หรือปิกอัพ ไฟฟ้าขนาด 1 ตัน ในไตรมาสสุดท้ายอย่างแน่นอน โดยจะใช้ชื่อยี่ห้อ ไมน์ (MINE) หรือหากไม่ผิดความคาดหมายน่าจะเปิดตัวได้ในเดือนตุลาคมนี้

ส่วนแผนงานหลังจากบริษัทเข้าไปถือหุ้นใหญ่ ในบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน สัญชาติไต้หวัน อมิตา เทคโนโลยี อิงค์ ล่าสุดจะผลิตที่ประเทศไทยภายใต้ชื่อ อมิตา เทคโนโลยี ประเทศไทย ซึ่งบริษัทเตรียมขยายกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการ หลังจากมีการลงทุนเฟสแรกปี 2564 ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 7,000 ล้านบาท มีกำลังการผลิตที่ 1 kWh หรือคิดเป็นการผลิตได้ 6 ล้านเซลล์ ส่วนในปี 2566 ขยายกำลังการผลิตเป็น 4 kWh ต่อปี สำหรับโรงงานสามารถประกอบเป็นแพ็กแบตเตอรี่ ได้ตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น 7 เซลล์ 14 เซลล์ และ 21 เซลล์

และในส่วนโรงงานผลิตรถโดยสารไฟฟ้า 100% ภายใต้บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด นั้น ล่าสุดเพิ่งมีการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าให้กับผู้ได้รับสัมปทานจาก ขสมก. และรถไมโครบัส ระหว่างเมืองไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากลงทุน 2,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่บนพื้นที่ 80 ไร่ ที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ในช่วงเริ่มต้นมีกำลังการผลิต 1-2 คันต่อวัน และปัจจุบันเพิ่มกำลังผลิตเป็น 10 คันต่อวันและในอนาคตจะเพิ่มเป็น 80 คันต่อวัน เพื่อเตรียมรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีความต้องการอีกกว่า 3,000 คัน

นายสมโภชน์ยังเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะส่งออกรถโดยสารไฟฟ้า ออกไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย และอนาคตก็จะมีการต่อยอดเพื่อพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าประเภทอื่นด้วย

ก่อนหน้านี้ นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทปรับแผนธุรกิจ หันมาต่อยอดและพัฒนารถยนต์กระบะไฟฟ้า โดยใช้ชื่อยี่ห้อ “ไมน์” ภายใต้ลงทุนเพิ่มเติมมูลค่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนต่อเนื่อง และได้นำแพลตฟอร์มของไมน์ สปาวัน มาพัฒนา โดยจะพยายามทำให้ราคากว่า 1 ล้านบาท และเน้นเจาะตลาดคอมเมอร์เชียล ภาคการขนส่ง ที่ต้องการการบริหารจัดการต้นทุนให้ดีขึ้น รวมทั้งตลาดขายฟลีต ที่เจ้าของกิจกรรม หรือเถ้าแก่เป็นผู้ตัดสินใจเป็นหลัก

ส่วนการใช้ระยะเวลาในการชาร์จไฟฟ้าได้รวดเร็ว 0-80% ใช้เวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น ขณะที่ 0-100% ใช้ระยะเวลาแค่ 1 ชั่วโมง โดยสามารถวิ่งได้ในระยะทาง 200-270 กิโลเมตร โดยใช้แบตเตอรี่ขนาด 30 kWh มาเป็นจุดขายหลัก

เบื้องต้นมีกำลังผลิตอยู่ที่ 5,000 คันต่อปี และสามารถเพิ่มการผลิตได้ แต่ต้องดูทิศทางความต้องการของตลาดมาประกอบกัน โดยเฉพาะดีมานด์ของตลาดด้วย