ปอร์เช่ ไทยแลนด์ ฉลอง 30 ปี แตกเน็ตเวิร์กใกล้ชิดลูกค้า

โชว์รูมปอร์เช่

ปีหน้าจะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองรถยนต์ปอร์เช่ในประเทศไทย และถือเป็นปีแห่งความพิเศษ หลังจากที่ กลุ่มเอเอเอส ออโต้ ได้รับสิทธิและความไว้วางใจจาก ปอร์เช่ เอ.จี. ให้ดูแลการขายและการตลาดปอร์เช่ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน เป็นระยะเวลาถึง 30 ปี และยังครบ 60 ปี ของรถยนต์ไอคอนนิก อย่าง ปอร์เช่ 911

รวมถึงเป็นปีแห่งการฉลองครบ 75 ปี ของแบรนด์ ปอร์เช่ด้วย ดังนั้น ความพิเศษที่ เอเอเอส กรุ๊ป เตรียมจัดให้กับลูกค้า คนพิเศษ จะมีมากมายและต่อเนื่องทั้งปี

เท่านั้นยังไม่พอ…ความนิยมของ รถยนต์ “ปอร์เช่” ในประเทศไทยมีเพิ่มมากขึ้น ทำให้ เอเอเอส กรุ๊ปได้เตรียมแผนงาน พร้อมการลงทุน เพื่อเตรียมรองรับความต้องการของลูกค้าคนพิเศษ รวมไปถึงลูกค้าในอนาคต “ธนบดี กุลทล” ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ปอร์เช่ ประเทศไทย หรือเอเอเอส กรุ๊ป พร้อมฉายภาพในก้าวย่างต่อไปของ ปอร์เช่ และ เอเอเอสกรุ๊ป

ธนบดี กุลทล-ปอร์เช่

ขยายเน็ตเวิร์ก เข้าใกล้ลูกค้ามากขึ้น

จากแนวโน้มความต้องการของกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยที่มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ยอดขายไม่ได้ลดลง ยอดจองก็ไม่ได้ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในหลายปีที่ผ่านมา”

เห็นได้จากยอดขายของปอร์เช่ ที่มีการเติบโตมาตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ประกอบกับนโยบายของบริษัท ทำให้ต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต เพื่อที่จะให้สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุม

ปัจจุบัน ปอร์เช่ มีโชว์รูมและศูนย์บริการอยู่ 4 แห่ง ได้แก่ สาขาดอนเมือง, สาขาพัฒนาการ, สาขาพารากอน และสาขาไอคอนสยาม ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ

ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนในการขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายและบริการ เพื่อเข้าไปหาลูกค้าในพื้นที่ต่าง ๆ ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยได้ประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่ายเป็นครั้งแรก และขณะนี้ได้มีผู้สนใจเข้ามาสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายแล้ว และได้มีการลงนามเซ็นสัญญาในเบื้องต้นแล้ว กับนักลงทุน 2 ราย ที่จะเข้ามารับผิดชอบ โดย 2 โชว์รูมที่จะขยายคือ 1.พื้นที่ จ.ชลบุรี 1 แห่ง และพื้นที่โซนกรุงเทพฯอีก 2 แห่ง หนึ่งในนั้นจะเป็นการลงทุนโดย “เอเอเอส” 1 แห่ง และตัวแทนจำหน่ายอีก 2 แห่ง

ปอร์เช่ คุมมาตรฐานเข้ม

สำหรับโชว์รูมและศูนย์บริการที่เตรียมเปิดเพิ่มอีก 3 แห่งนั้น เนื่องจากความใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งทุกอย่างจะต้องได้ตามมาตรฐานที่ ปอร์เช่ เอ.จี. กำหนด “เอเอเอส” จะต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมความพร้อม

คาดว่าทุกอย่างน่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2566 หรือข้ามไปเป็นปี 2567 เป็นอย่างน้อย

ปรับหลังบ้านพร้อมลุยเต็มสูบ

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา “เอเอเอส” ได้ปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต เพื่อให้การบริหารจัดการต่าง ๆ โดยมีการจัดตั้งบริษัท เอเอเอส ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด (AAI) ขึ้นอีก 1 บริษัท เพื่อนำเข้ารถยนต์ปอร์เช่ เพื่อจำหน่ายภายใต้ทุนจดทะเบียนมูลค่า 200 ล้านบาท โดยจดทะเบียนไปเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2564 มีตนเองเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขาย ปอร์เช่ ประเทศไทย

และอีกบริษัท ได้แก่ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด (AAS) ดำเนินธุรกิจในฐานะผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายแทน ภายใต้ทุนจดทะเบียน 212 ล้านบาท ตั้งเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2529

นอกจากนี้ในส่วนของ บริการหลังการขาย “เอเอเอส” ได้เตรียมความพร้อมทั้งการอัพเดตอุปกรณ์เครื่องมือให้มีความทันสมัย และเพิ่มความสามารถในการให้บริการหลังการขาย, งานซ่อมเพิ่มขึ้น

รวมทั้งมีการพัฒนาบุคลากรทุกฝ่าย ทั้งทีมช่างให้ได้ตามสแตนดาร์ดของปอร์เช่ ที่มีมาตรฐานค่อนข้างสูง ทั้งสินค้าและบริการ

ปูพรมรับเทรนด์อีวี

และเนื่องจากปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าที่ เอเอเอส จำหน่ายมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก (Porsche Asia Pacific) ได้ร่วมมือกับเชลล์ (Shell) เปิดตัวสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูง 180 กิโลวัตต์ ในประเทศไทย แห่งแรก ณ สถานีบริการน้ำมันรูปแบบใหม่ ‘Site of the Future’ ต้นแบบสถานีบริการน้ำมันมาตรฐานระดับโลกแห่งแรกในไทย ที่ จ.นนทบุรี และอนาคตมีแผนที่จะขยายให้ครอบคลุมอีก 11 แห่ง ตั้งแต่เหนือจรดใต้ เพื่อรองรับการเชื่อมต่อของเส้นทางในภูมิภาคด้วย

มีรถรองรับทุกกลุ่ม

วันนี้ นอกจากปริมาณรถยนต์ปอร์เช่ ที่จำหน่ายในประเทศไทย ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว

สิ่งสำคัญคือ “เอเอเอส” ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถจับต้องรถยนต์ปอร์เช่ ได้ง่ายขึ้น ด้วยราคา เริ่มต้นเพียง 4.79 ล้านบาท สำหรับ ปอร์เช่ มาร์คัน และยังมีรถหลากหลายกลุ่ม ไต่ระดับขึ้นไปถึง เพอร์ฟอร์มานซ์ คาร์

ที่สำคัญ รถยนต์ ปอร์เช่ ทุกคันสามารถคัสตอมฯได้ตามความต้องการของผู้ซื้อ

ไฮไลต์ในมอเตอร์เอ็กซ์โป

สำหรับมอเตอร์เอ็กซ์โป 2022 ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ ปอร์เช่ ใช้พื้นที่จัดแสดงรถยนต์เพิ่มขึ้นจากเดิม เรียกว่ามาจัดแสดงได้ครบมากขึ้น และมี สีสัน โดยไฮไลต์ของเรา จะเป็นรถทุกคันที่จัดแสดง มีรถที่มีสีสันสะดุดตา อย่าง 911 สีเขียวสด, 718 ปอร์เช่ เคย์แมน จีที 4 อาร์เอส (Porsche 718 Cayman GT4 RS) ที่ผลิตไม่มาก จะถูกนำมาจัดแสดงในงานนี้

สุดท้าย… “ธนบดี” ฝากย้ำว่า

“สำหรับปอร์เช่ ในส่วนของ แคมเปญแทบจะไม่มี แต่อยากให้ทุกคนลองเดินเข้ามาที่บูธ เพราะมีความพิเศษรออยู่…ที่สำคัญ ใครที่จด ๆ จ้อง ๆ รถปอร์เช่ไว้ครอบครองสักคัน ให้รีบจอง อย่ารอช้า”

718 Cayman GT4 RS
สายพันธุ์สปอร์ตคันล่าสุด จาก ปอร์เช่

หลายคนมักมีคำถาม…รถสปอร์ตที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการก้าวข้ามขีดจำกัด 718 Cayman GT4 RS คันนี้ จะพาคุณ
ก้าวข้ามไปจากขีดจำกัด กับรถสปอร์ตคันนี้

ว่ากันว่านี่คือ สุดยอดยนตรกรรมรุ่นล่าสุดของตระกูล 718 เฉียบคมที่สุดเท่าที่เคยมีมา

718 Cayman GT4 RS

ปอร์เช่ ออกแบบและพัฒนาให้มีโครงสร้างน้ำหนักเบา ช่วงล่างปรับแต่งให้มีเสถียรภาพสูงสุด ระบบอากาศพลศาสตร์ที่เหนือชั้น

และเสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

และศักยภาพอันเหนือชั้นในด้านของการบังคับควบคุม ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางแบบไหน หรือการขับขี่ในสนามแข่งด้วยความเร็วสูง

Porsche 718 Cayman GT4 RS มาพร้อมกับขุมพลังเบนซิน 6 สูบ นอน ไร้ระบบอัดอากาศ 500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 
450 นิวตันเมตร มาพร้อมความพิเศษของระบบส่งกำลังอัตโนมัติ คลัตช์คู่อัจฉริยะ Porsche dual clutch transmission (PDK) 7 จังหวะได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงถ่ายทอดพละกำลังจากเครื่องยนต์ได้อย่างไร้ที่ติ ด้วยน้ำหนักตัว 1,415 กิโลกรัม

อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 8.13 กิโลเมตรต่อลิตร

สำหรับ Porsche 718 Cayman GT4 RS ราคา 15.8 ล้านบาท

พบกับรถคันนี้ได้ที่บูธ ปอร์เช่ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 1-12 ธ.ค.นี้ ชาเลนเจอร์ฮอล์ เมืองทองธานี