วิจัยจาก “นิสสัน” ชี้ ผู้บริโภค”อาเซียน”เล็งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถคันถัดไป

REUTERS/Brendan McDermid

“นิสสัน” ร่วมกับ “ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน” สำรวจข้อมูลความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า มากกว่า 1 ใน 3 ของผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พร้อมซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

การวิจัยนี้ครอบคลุมทั้ง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เผยว่า 37% ของผู้ที่กำลังจะซื้อรถยนต์มีความสนใจที่จะซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นคันต่อไป โดยลูกค้าใน ฟิลิปปินส์     ประเทศไทย และอินโดนีเซีย คือกลุ่มที่มีความต้องการซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากที่สุด

2 ใน 3 ผู้บริโภคทั่วภูมิภาคให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยเป็นอันดับแรกในการตัดสินใจซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และด้านความสะดวกสบายในการชาร์จไฟฟ้าเป็นปัจจัยอันดับที่สอง

ตรงข้ามกับความเข้าใจเดิมๆ ราคาไม่ใช่ปัญหา เพราะลูกค้ามีความพร้อมที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเมื่อเทียบกับรถยนต์แบบทั่วไป

อย่างไรก็ตามผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่ต่ำลงจะทำให้คนจำนวนมากขึ้นคิดที่จะซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 3 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามตอบว่าพวกเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนจากรถยนต์ทั่วไปเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าถ้ามีการยกเว้นภาษี รวมถึงแรงจูงใจอื่นๆ และที่จะสร้างความน่าสนใจให้ผู้บริโภคหันมาซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น การติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าในอาคารที่อยู่อาศัย (70 %) การมีช่องทางขับขี่พิเศษสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (56 %) และการไม่เสียค่าที่จอดรถ (53 %)

ถึงแม้จะมีความต้องการต่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สูง แต่ก็ยังมีอุปสรรคหลายด้านเช่นกัน อาทิ ความกังวลใจเรื่องแบตเตอรี่จะหมดลงคืออุปสรรคหลักของการตัดสินใจซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พอกับที่ลูกค้ายังไม่เชื่อมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

“การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของรถยนต์ขับเคลื่อนโดยพลังงานไฟฟ้าจำเป็นต้องมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงแนวทางการดำเนินการในระยะยาวที่ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่แตกต่างกันในแต่ละตลาด” ยูตากะ ซานาดะ รองประธานอาวุโส ระดับภูมิภาคของนิสสัน กล่าวในงาน นิสสัน ฟิวเจอร์ 2018 ที่จัดขึ้น ณ สิงคโปร์ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  “ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าภาครัฐมีบทบาทสำคัญต่อการสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

“รถยนต์ไฟฟ้าของนิสสันได้รับการทดสอบอย่างจริงจังในสภาพอากาศที่เลวร้ายที่สุด เรามีความภาคภูมิใจที่ลูกค้า นิสสัน ลีฟ จำนวน 300,000 รายได้ขับรถของเรา ไปมากกว่า 3.9 พันล้านกิโลเมตรทั่วโลกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 โดยไม่มีปัญหาใหญ่ๆ เกิดขึ้นกับแบตเตอรี่เลย” ซานาดะ กล่าว