“เอชเซม มอเตอร์” ลั่น 2 ปี เลิกขาย-เลิกผลิตรถใช้เครื่องยนต์

“เอช เซม มอเตอร์” ลั่นอีก 2 ปีเลิกผลิตรถเครื่องยนต์ พุ่งเป้ามอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมด ตอบรับแนวคิด ESG เต็มรูปแบบ ปลื้มปี 2565 ขึ้นผู้นำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเต็มตัว ยอดขายทะลุ 2 พันคัน เตรียมผุดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ EV รองรับการเติบโตแบบยั่งยืน

นายวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิต จำหน่าย และปล่อยเช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เอช เซมฯ เปิดเผยถึงทิศทางของบริษัทว่า ยังมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการลูกค้าชาวไทย ทั้งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า, รถกอล์ฟ, รถสามล้อไฟฟ้าและเครื่องยนต์ โดยวางเป้าหมายว่า ภายในปี 2567 โปรดักต์ทุกตัวของเอช เซมฯ จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อให้สอดรับกับแนวคิด ESG (environment/social/governance) ที่บริษัทจะให้ความใส่ใจรอบด้าน ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

วันชัย ลี้นะวัฒนา

“ปีหน้าทั้งออฟฟิศและโรงงานของเราจะใช้มาตรฐาน ISO 14000 เราพยายามทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีการพัฒนาอย่างสอดคล้องและเป็นบันไดสู่องค์กรที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน”

นายวันชัยกล่าวถึงแผนลงทุนในปี 2566 ว่าจะใช้เงินอีก 200-300 ล้านบาท โดยจะมีการลงทุน 2 ส่วนหลัก ๆ คือ 1.เร่งขยาย “เอช เซม พาวเวอร์ สเตชั่น” อีกราว ๆ 100 ตู้ ทำให้ปีหน้า เอช เซมฯ จะมีสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่มากถึง 160 ตู้ รองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเพียงพอ และ 2.พัฒนาโปรดักต์ใหม่ ซึ่งคาดว่าราว ๆ ต้นเดือนเมษายนปี 2566 จะเพิ่มมอเตอร์ไซค์อีวีแบบครอบครัวขนาดล้อ 16 นิ้ว เข้ามาเสริมตลาดอีก 1 รุ่น พร้อมทั้งไมเนอร์เชนจ์ MOBILA G เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขึ้นเนินและทางลาดชัน

“มอเตอร์ไซค์อีวีของเราทุกรุ่น ตอนนี้ได้รับใบรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับนานาชาติ UN Regulation NO.136 เกี่ยวกับความปลอดภัยแบตเตอรี่ รวมถึงมาตรฐานเบรก UN 78 ซึ่งจะทำให้การเบรกหยุดรถมีความสมดุลมากขึ้น ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง”

สำหรับผลประกอบการปี 2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากธุรกิจดีลิเวอรี่และโลจิสติกส์เติบโตอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยเฉพาะตลาดคอมเมอร์เชียล (แบบเช่าใช้งาน) ซึ่งเอช เซมฯ มีสัดส่วนการทำตลาดมากกว่า 90% เติบโตมาก ขณะที่ตลาดโฮมยูสยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและปัญหาโควิด ส่งผลให้ปีนี้ เอช เซมฯ มียอดจดทะเบียน (ม.ค.-พ.ย. 2565) สูงถึง 1,432 คัน รวมเดือนธันวาคมอีกราว ๆ 600 คัน เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาด ขณะที่รถกอล์ฟมียอดขาย 300 คัน สามล้อไฟฟ้าและสามล้อเครื่องยนต์ 1,455 คัน

“ตลาดรวมมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าต่อปีประมาณ 7-8 พันคัน ปีหน้าเราคาดหวังว่าเอช เซมฯ น่าจะกวาดยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 6,000 คัน จากโปรดักต์ที่เพิ่มขึ้น และจำนวนตู้เปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ขยายรองรับบริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง”

โรงงานเอช เซม มอเตอร์ ที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา

ซีอีโอเอช เซมฯ กล่าวอีกว่า จากการขยายตัวที่รวดเร็วของตลาดอีวี บริษัทยังมีแผนจัดตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่แบรนด์เอช เซมฯ ขึ้นเอง คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ปีจากนี้ ซึ่งปัจจุบันได้มีการหารือกับหน่วยงานรัฐ เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และไม่สร้างผลกระทบต่อชุมชน

“โรงงานเอช เซมฯ ที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่รองรับการขยายและจัดตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่อีวีได้สบาย ๆ ตรงนี้จะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยเราต่ำลงมาก”

ส่วนงานบริการหลังการขายและเช่า เอช เซมฯ มีศูนย์บริการในกรุงเทพฯ 3 สาขา ได้แก่ สาขาบางนา สาขา CU Sport และพิเศษสำหรับสาขา RCA เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่กระจายไปตามสำนักงานสาขาของเอช เซมฯ ธนาคาร คอมมิวนิตี้มอลล์ สถานีบริการน้ำมัน มหาวิทยาลัย และซูเปอร์มาร์เก็ต ให้บริการ 24 ชม.เช่นกัน เร็ว ๆ นี้จะร่วมมือกับอู่ซ่อมมอเตอร์ไซค์ทั่วไป จัดอบรมให้ความรู้พร้อมใบรับรอง ทำให้อนาคต เอช เซมฯ จะเซอร์วิสกระจายอยู่ทั่วไปในเขต กทม.และปริมณฑล

สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เอช เซมฯ ทุกรุ่นราคาขายไม่เกิน 2 แสนบาท ใช้แบตเตอรี่ 30 แอมป์ ได้รับเงินอุดหนุนสำหรับผู้ซื้อ 1.8 หมื่นบาทจากกรมสรรพสามิต ตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และได้รับฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 จาก กฟผ.