ส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์โตฉลุย รัฐ-เอกชนผนึกกำลังโหมเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์

อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ชี้ตลาดส่งออกสดใส เชื่อส่งผลดี คาดโตไม่น้อยกว่า 10-15% ด้านรี้ดเทรดเด็กซ์ ชี้นโยบาย 4.0 กระตุ้น 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ผ่านเวที ME 2018 กลางปีนี้

นางอัชณา ลิมป์ไพฑูรย์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เปิดเผยถึงภาพรวมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและยานยนต์ว่า ปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในหลายประเทศ รวมทั้งอุตสาหกรรมส่งออกที่ดีขึ้น ส่งผลต่อความต้องการชิ้นส่วนยานยนต์และอะไหล่ แม้ว่าในปี 2560 ที่ผ่านมา การส่งออกรถยนต์นั้นจะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ชิ้นส่วนยานยนต์นั้นมีสัดส่วนขยายตัวไปแตะระดับเกือบ 15%

“ปีนี้เชื่อว่าการเติบโตระดับ 10-15% มีความเป็นไปได้ เนื่องจากสินค้า ชิ้นส่วนอะไหล่ รวมทั้งยานยนต์ที่ผลิตจากประเทศไทยนั้นได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในตลาดโลก โดยเฉพาะอเมริกาซึ่งถือเป็นตลาดส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งแบบโออีเอ็มและอาร์อีเอ็มที่ใหญ่ที่สุดของไทย รองลงมาได้แก่ ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม”

ด้านนายดวงเด็ด ย้วยความดี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รี้ดเทรดเด็กซ์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมหลายอย่างมีความเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โลกยุค 4.0 ซึ่งจะมีผลต่อภาคการผลิตโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนที่จะเป็นการผลิตแบบเชื่อมโยงแบบไร้ระยะทางดังนั้นบริษัทจึงพยายามหาแนวทางที่จะตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อเป็นการร่วมสนับสนุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve industries) ได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์สมัยใหม่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ ชิ้นส่วนอากาศยาน อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ครบวงจร และการแปรรูปอาหาร

โดยเปิดเวทีสัมมนา MExperience เผยการเปิดประสบการณ์ใหม่กับเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมการผลิต ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย คำตอบในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิต และการผลิตชิ้นส่วนที่มีมูลค่าเพิ่มที่จะเกิดขึ้นในงาน ME 2018 ซึ่งจะมีกลุ่มผู้ผลิตจากทั่วโลกเข้ามาร่วมงาน หลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมพลาสติกและชิ้นส่วนยานยนต์ แพ็กเกจจิ้ง อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ ระบบอัตโนมัติ ฯลฯ

สำหรับปีนี้ จะมีพาวิเลียนจากอังกฤษ เยอรมนี มาเข้าร่วมในงานเป็นครั้งแรกด้วย ส่วนทางอินเดียจะมีการนำนักลงทุนกว่า 100 รายเข้าร่วมงานครั้งนี้ โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 มิถุนายน 2561 นี้ ที่ไบเทค บางนา

ด้าน ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัยด้านการวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยถึงว่า จากการประเมินตัวเลขจีดีพีและดัชนีเศรษฐกิจของไทยและของโลกในปี 2561 เศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยเศรษฐกิจโลกคาดว่าเติบโตอยู่ที่ระดับ 3.1% เศรษฐกิจสหรัฐ ขยายตัวได้ในระดับ 2.5% จากตลาดแรงงานฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและการลงทุนของภาคเอกชน โดยค่าเงินดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่า เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักแนวโน้มดังกล่าวส่งผลดีต่อภาคส่งออกไทย และการลงทุนโดยตรงของสหรัฐในไทย โดยเฉพาะภาคการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สำหรับกลุ่มประเทศอาเซียน คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 5.3% จากการฟื้นตัวของภาคการส่งออกและสินค้าภาคการเกษตร โดยประเทศไทยคาดว่าจะมีการส่งออกในปีนี้ขยายตัว 7-8% โดยอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มสดใสในปีนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมค้าปลีกอีคอมเมิร์ซ การท่องเที่ยว บริการทางการแพทย์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์