มาเซราติปูพรมครบไลน์ลุยขาย “กิบลี”

มาเซราติ เร่งเครื่องเต็มสูบ เดินหน้าเจาะตลาดรถซีดาน เผยเคลียร์หลังบ้านเรียบร้อย พร้อมส่ง “กิบลี” ใหม่ดันยอดหวังโตเท่าตัว

นายปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย หรือบริษัท ดีไซน์ มอเตอร์เวอร์ค จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือเอ็มจีซี-เอเชีย เปิดเผย

“ประชาชาติธุรกิจ” ถึงทิศทางในการดำเนินธุรกิจว่า หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มาเซราติอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับและยอมรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า รวมทั้งได้จัดการรถยนต์ในสต๊อกจากผู้แทนจำหน่ายรายเดิมเรียบร้อย ส่งผลให้ปีนี้สามารถเดินหน้าทำตลาดรถยนต์ซีดานได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะทำให้มาเซราติมีโปรดักต์ครบไลน์ ทั้งรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ หลังจากปีที่ผ่านมาต้องโฟกัสเฉพาะกลุ่มรถยนต์เอสยูวี ลาแวนเต้ เพียงอย่างเดียว

โดยปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวรถยนต์นั่ง มาเซราติ กิบลี ในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ หรือภายในงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเช่นเดียวกัน โดยมีรถให้เลือกถึง 3 รุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร V6 257 แรงม้า,เบนซิน 3.0 ลิตร V6 350 แรงม้า และรุ่นเอส 430 แรงม้า เบื้องต้นคาดว่าตั้งราคาขายเริ่มต้นที่ 7 ล้านบาท

“ปีที่แล้วเราต้องใช้เวลาเคลียร์รถในสต๊อกเก่าจากผู้จำหน่ายรายเดิมเยอะ แต่ปีนี้เรามีเวลาทำตลาดได้อย่างเต็มที่และเป็นปีที่เราหันมาจริงจังกับตลาดรถยนต์นั่งมากขึ้น น่าจะได้เห็นอะไรสนุกจากมาเซราติแน่นอน”

ในปี 2560 ที่ผ่านมา มาเซราติมียอดจองถึง 50 คัน สำหรับลาแวนเต้ ซึ่งเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่บริษัทมีในการดำเนินการขายอย่างจริงจังเพียง 5 เดือนนั้นถือเป็นความสำเร็จที่เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ค่อนข้างมาก

นอกจากนี้ ยังไม่นับรวมยอดจำหน่ายที่ได้จากงานมหกรรมยานยนต์ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าได้ภายในกลางปีนี้

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าจากการตอบรับของลูกค้า บวกกับนโยบายการทำตลาดและมีสินค้าที่หลากหลายขึ้น จะส่งผลให้ปี 2561 นี้ บริษัทจะมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือมียอดขายแตะระดับ 100 คันได้ไม่ยาก ทั้งนี้คาดว่าจะมีสัดส่วน ลาแวนเต้ 65% กิบลี 20% และควอตโตรปอร์เต้ กับแกรนด์ทัวริสโม่ อีก 15%

เป็นที่ทราบกันดีว่า แบรนด์มาเซราติอยู่ในประเทศไทยมากว่า 20 ปี และคนไทยมองว่ารถมาเซราติ เป็นจูเนียร์ซูเปอร์คาร์ เนื่องจากเครื่องยนต์ถูกพัฒนาโดยเฟอร์รารี่ ประกอบกับหลังจากบริษัทแม่ได้ปรับนโยบายใหม่เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ายอดมาเซราติเพิ่มขึ้นจากหลัก1,000 ต้น ๆ มาเป็น 50,000 คัน ในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโต และมีโอกาสทางการตลาดค่อนข้างสูง หลังจากเปิดตัวกิบลีโมเดลก่อน และตามมาด้วยลาแวนเต้

“เราพยายามเดินหน้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ทั้งเรื่องสต๊อกอะไหล่ บริการหลังการขาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า รวมทั้งเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานในซอยสุขุมวิท 26 และสยามพารากอน โดยปรับรูปแบบกลยุทธ์เน้นให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยผสมความเป็นอิตาเลียนเข้าไปในหลากหลาย สำหรับฐานลูกค้าของมาเซราติที่พบส่วนใหญ่

เป็นกลุ่มลอยัลตี้ที่ชื่นชอบรถแรง และกลุ่มไม่สนใจความแรง ต้องการความเเตกต่างเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร หรือพูดให้ชัดเจนลงไปอีก คือ กลุ่มผู้ใช้รถลักเซอรี่ต้องมีแคแร็กเตอร์ของตัวเองด้วย” นายปิยะเทพกล่าว