“มาสเตอร์กรุ๊ป” ปรับ 360 องศา ดัน “ดิจิทัลแพลตฟอร์ม” รับไทยแลนด์4.0

เอ็มจีซี-เอเชีย พลิก 360 องศา เดินเครื่อง “ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง” สอดรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ลุยปักธงรบหวังขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งกลุ่มทุนยานยนต์ครบวงจรของเอเชีย พร้อมส่งแพ็กธุรกิจในเครือทั้ง 8 กลุ่ม ขยายฐาน ตั้งเป้า 3 ปีสู่เป้าหมาย 5 หมื่นล้าน ส่วนปีนี้ขอโต15% ทะลุ 2.5 หมื่นล้าน

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือเอ็มจีซี-เอเชีย เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีจากนี้ หรือวิชั่น 2020 ว่าบริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้ 5 หมื่นล้าน โดยขณะนี้ได้ดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้

เห็นได้จากผลประกอบการในปีที่ผ่านมา เอ็มจีซี-เอเชีย มีรายได้ถึง 22,000 ล้านบาท โต 15% แบ่งสัดส่วนรายได้จะเห็นว่าธุรกิจรถยนต์ใหม่ ประกอบด้วย รถยนต์ยุโรป และญี่ปุ่น 80% ธุรกิจรถเช่า 8% ธุรกิจอาฟเตอร์มาร์เก็ต 2% ธุรกิจให้คำปรึกษาและการบริการด้านประกันภัยครบวงจร 1% และธุรกิจภาพรวมอื่นในสัดส่วน 9% อาทิ ธุรกิจรถเช่า รถมือสอง ศูนย์ฝึกอบรม รวมถึงเทคโนโลยีและสารสนเทศ

ส่วนปีนี้ตั้งเป้าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 15% หรือมีรายได้ประมาณ 25,300 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะมียอดการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ไม่น้อยกว่า 12,500 คัน และรถยนต์เข้าใช้บริการในส่วนของธุรกิจหลังการขายไม่น้อยกว่า 240,000 คัน

โดยปีนี้บริษัทได้เตรียมงบประมาณสำหรับการลงทุนไม่น้อยกว่า 2,300 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนขยายเครือข่าย การเพิ่มพันธมิตรรายใหม่ ๆ อย่าง ทูแนป (TUNAP) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงรักษารถยนต์ระดับโลกรวมทั้งธุรกิจดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เพื่อรับดิจิทัลแพลตฟอร์มเต็มรูปแบบ และรับกับไทยแลนด์ 4.0 โดยจัดตั้งบริษัทดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งขึ้นมาเพื่อรองรับธุรกิจในเครือและการขยายธุรกิจออกไปสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งซึ่งจะเห็นความชัดเจนในช่วงกลางปีนี้

“วันนี้ในเอเชียจะเห็นกลุ่มทุนลักษณะเราค่อนข้างเยอะ แต่ยังไม่มีใครครบ 360 องศาเท่าเรา ดังนั้นกลุ่มเอ็มจีซี-เอเชีย เราจะเป็นกลุ่มทุนไทย 100% ที่ออกไปเติบโตแบบครบวงจรในเอเชีย”

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนในการขยายในส่วนของศูนย์ให้บริการเอ็มเอ็มเอสอีก 7-8 สาขาในปีนี้ และจะครบ 30 สาขาในปี 2564 ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทเพิ่งเข้าไปลงทุนใน สปป.ลาว ด้วยการเช่าที่ดินขนาด 16 ไร่ เป็นระยะเวลา 60 ปี เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจของกลุ่ม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษรายละเอียดว่าจะทำกลุ่มธุรกิจใดเข้าไปเริ่มเปิดตลาด หลังจากก่อนหน้านี้ส่งธุรกิจรถเช่าเข้าไปซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีรวมทั้งกลุ่มประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน ทั้งมาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา พม่า ก็มีโอกาสในการขยายธุรกิจทั้งสิ้น

“ตอนนี้เรารอจังหวะและโอกาส เพื่อก้าวไปสู่จุดยุทธศาสตร์สำคัญภูมิภาค โดยเราดูโอกาสทั้งการเข้าไปลงทุน การจับมือกับพันธมิตร หรือการเข้าไปซื้อกิจการทุกอย่างล้วนมีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น”

และปีนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัทเอ็มจีซี-เอเชีย ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 18 ของการดำเนินธุรกิจในไทย โดยในปีนี้บริษัทได้มีการจัดตั้งมูลนิธิ “ธรรมชวนวิริยะ” ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มจากเจตนารมณ์ของ นายวิวัฒน์ ธรรมชวนวิริยะผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทเอ็มจีซี-เอเชีย

ทั้งนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวิถีการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืนสู่สังคมไทย และเพื่อเป็นการตอบแทนสังคม บริษัทได้จัดทำโครงการ CSR อย่างเต็มรูปแบบ

เริ่มจากโครงการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาทางด้านการศึกษาให้กับชุมชน รวมถึงการดูแลสุขภาพและการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานแก่พนักงานในองค์กร