ซีพี โฟตอน ผนึก เมืองสะอาด คว้าประมูลรถขยะ EV 131 คัน

ซีพี โฟตอน ผนึกบริษัทเมืองสะอาด คว้าประมูลรถขยะEV กทม. 131 คัน เตรียมส่งมอบเร็วๆ นี้ ย้ำจุดยืนผู้นำรถบรรทุกEV ในไทย ยกมาตรฐานยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ในภาคการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์

วันที่ 12 เมษายน 2566 นายกฤษณะ เศรษฐธรางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมส่งมอบรถบรรทุกไฟฟ้า 100% Aumark iBlue 85 จำนวน 131 คันให้กับบริษัทเมืองสะอาดเพื่อใช้ในกิจการกำจัดขยะมูลฝอย หลังจากบริษัทเมืองสะอาดได้โปรเจ็กต์ในโครงการจ้างเอกชนเก็บขยะจาก กทม. และเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาซีพี โฟตอนได้นำตัวแทนจำหน่ายไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ที่โรงงานโฟตอน มอเตอร์ กรุ๊ป ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมทั้งเซ็นสัญญารับมอบรถบรรทุกEV มาเป็นที่เรียบร้อยทั้ง 131 คัน

กฤษณะ เศรษฐธรางกูร

นายกฤษณะ กล่าวอีกว่าแผนรุกตลาดปี 2566 ซีพี โฟตอนต้องการผลักดันตลาดกลุ่มรถบรรทุกEV ให้มากขึ้น หลังจากที่ได้เปิดตัวไปแล้วถึง 5 รุ่น อาทิ Truck Mate TM iBlue45, Aumark 4W iBlue85, Aumark 6W iBlue165, Aumark 6W iBlue220 และ Auman EST iBlue280 ส่วนใหญ่จะเน้นไปตามหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่ต้องการเปลี่ยนรถใช้งานคันใหม่ โดยปฏิบัติตามนโยบายจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งกำหนดให้เลือกใช้รถEVแทนรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน

“ปีนี้เราตั้งเป้ายอดขายไว้สูงถึง 1,000 คัน หวังครองแชมป์ผู้นำแห่งรถบรรทุกไฟฟ้าในประเทศไทยพร้อมทั้งผลักดันมาตรฐานยานยนต์เพื่อการพาณิชย์สู่ผู้ใช้รถชาวไทย มุ่งเน้นประโยชน์ให้เกิดแก่ตลาดการค้าและผู้ใช้รถเป็นสำคัญ ”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการจ้างเอกชนเก็บขยะของกทม.ในปี 2566 กทม.จะเช่ารถเก็บขนขยะทดแทนรถเก็บขนขยะเดิม ใช้งบประมาณ 4 พันกว่าล้านบาท เพื่อเช่ารถจัดเก็บขยะมูลฝอย 692 คัน ระยะเวลา 5 ปี รวมถึงมอบนโยบายให้สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เปิดกว้างในการกำหนดข้อกำหนดในการเช่าประเภทรถเก็บขยะ ทั้งรถEV น้ำมัน หรือก๊าซธรรมชาติ สามารถเข้าร่วมการประมูลได้ และ กทม.ยังมีโครงการใหม่คือ การเช่ารถจัดเก็บมูลฝอยขนาดเล็กที่เป็นสามล้อไฟฟ้า จำนวน 50 คัน วงเงิน 45,675,000 บาท เพื่อทดแทนเจ้าหน้าที่ที่ต้องใช้แรงคนในการลากขยะจากจุดพักขยะมายังจุดที่รถจัดเก็บขยะสามารถเข้าถึงได้ด้วย

ADVERTISMENT

อนึ่งแบรนด์ “โฟตอน” เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ด้วยความโดดเด่นด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ระดับ Best in Class ที่เน้นการเพิ่มเติมฟีเจอร์ใช้งานให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่อย่างสูงสุด, มีการพัฒนาเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง, มีการส่งเสริมงานบริการหลังการขายเชิงรุก ด้วย Mobile Service และ Mobile EV Charger เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการ แก่ผู้ใช้รถในยามฉุกเฉิน โดยนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 นี้เป็นต้นไป บริษัทฯ จะเร่งนำผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่ เข้าสู่ตลาดในประเทศไทยอีกหลากหลายรุ่น เพื่อให้เกิดการเลือกใช้พลังงานในภาคการขนส่งได้หลากหลายและมีประสิทธิภาพ พร้อมยังเป็นการรณรงค์ปกป้องสิ่งแวดล้อม สร้างสังคมคาร์บอนต่ำในอุตสาหกรรม เช่น การใช้งานในเมือง อุตสาหกรรมก่อสร้าง การคมนาคมขนส่งโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้อย่างยั่งย